คำแปลนี้จัดให้ไว้เพื่อความสะดวกเพียงเท่านั้น หากมีข้อขัดแย้งใดๆ ให้ยึดถือ เวอร์ชันภาษาอังกฤษ ไว้เป็นหลัก

เงื่อนไขการใช้บริการ Dropbox

ประกาศ: 4 พฤศจิกายน 2015

ขอบคุณที่ใช้ Dropbox! เงื่อนไขการใช้บริการเหล่านี้ ("เงื่อนไข") จะใช้บังคับการใช้งานและการเข้าถึงบริการนี้ของคุณ ซอฟต์แวร์ไคลเอนต์ และเว็บไซต์ ("บริการ") หากคุณอาศัยอยู่นอกสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก ("อเมริกาเหนือ") ข้อตกลงของคุณจะผูกพันกับ Dropbox Ireland และหากคุณอาศัยอยู่ในอเมริกาเหนือ ข้อตกลงของคุณจะผูกพันกับ Dropbox, Inc.นโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา จะอธิบายวิธีการที่เราเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลของคุณ ในขณะที่ นโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ จะสรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับความรับผิดชอบของคุณเมื่อใช้งานบริการของเรา ด้วยการใช้งานบริการของเรา คุณยอมรับที่จะผูกพันตามเงื่อนไขเหล่านี้และตรวจทานนโยบาย ความเป็นส่วนตัว และ การใช้งานที่ยอมรับได้ ของเรา หากคุณใช้งานบริการของเราสำหรับองค์กร คุณยอมรับในเงื่อนไขเหล่านี้ในนามขององค์กรนั้น

ข้อมูลและการให้สิทธิ์ของคุณ

เมื่อคุณใช้บริการของเรา คุณจะมอบสิ่งต่างๆ เช่น ไฟล์ เนื้อหา ข้อความอีเมล รายชื่อผู้ติดต่อ และอื่นๆ ("ข้อมูลของคุณ") ให้แก่เรา ข้อมูลเหล่านั้นของคุณจะเป็นของคุณ เงื่อนไขเหล่านี้ไม่ได้ให้สิทธิ์ใดๆ แก่เราในข้อมูลของคุณ เว้นแต่สิทธิ์ที่จำกัดซึ่งจะช่วยให้เราสามารถให้บริการได้เท่านั้น

เราจำเป็นต้องได้รับสิทธิ์จากคุณเพื่อทำสิ่งต่างๆ เช่น การโฮสต์ข้อมูลของคุณ การสำรองข้อมูลนั้น และการแบ่งปันข้อมูล เมื่อคุณขอให้เราดำเนินการ บริการของเรายังมีคุณสมบัติต่างๆ ให้คุณได้ใช้งาน เช่น รูปภาพขนาดเล็ก การแสดงตัวอย่างเอกสาร การจัดระเบียบอีเมล การจัดเรียงแบบง่าย การแก้ไข การแบ่งปัน และการค้นหาข้อมูล คุณสมบัติเหล่านี้และคุณสมบัติอื่นๆ อาจทำให้ระบบของเราต้องเข้าถึง จัดเก็บ และสแกนข้อมูลของคุณ คุณให้สิทธิ์แก่เราในการดำเนินการสิ่งเหล่านี้ และสิทธิ์ดังกล่าวจะครอบคลุมไปถึงบริษัทในเครือและบุคคลที่สามที่ไว้ใจได้ที่เราร่วมงานด้วย

การแบ่งปันพื้นที่ของคุณ

บริการของเราช่วยให้คุณสามารถแบ่งปันข้อมูลของคุณกับบุคคลอื่น ดังนั้นโปรดพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับข้อมูลที่คุณจะแบ่งปัน

ความรับผิดชอบของคุณ

คุณต้องรับผิดชอบในการกระทำ ตลอดจนข้อมูลของคุณ และคุณต้องปฏิบัติตาม นโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้เนื้อหาในบริการนี้อาจได้รับความคุ้มครองภายใต้สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลอื่น โปรดอย่าคัดลอก อัพโหลด ดาวน์โหลด หรือแบ่งปันเนื้อหาใดๆ เว้นแต่คุณจะมีสิทธิ์ดำเนินการเช่นนั้น

เราอาจตรวจสอบการดำเนินการและเนื้อหาของคุณเพื่อดูว่าเป็นไปตามเงื่อนไขเหล่านี้และ นโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ หรือไม่ อย่างไรก็ตาม เราไม่มีข้อผูกมัดที่จะต้องดำเนินการเช่นนั้น เราจะไม่รับผิดชอบในเนื้อหาที่บุคคลต่างๆ โพสต์และแบ่งปันผ่านบริการนี้

โปรดปกป้องรหัสผ่านสำหรับเข้าถึงบริการ และแน่ใจว่าไม่มีบุคคลอื่นใดสามารถเข้าถึงรหัสนั้นได้ และดูแลให้ข้อมูลบัญชีผู้ใช้ของคุณเป็นข้อมูลล่าสุดอยู่เสมอ

ประการสุดท้าย บริการของเราไม่ได้มีไว้สำหรับและไม่สามารถใช้ได้โดยบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี การใช้บริการของเรา เป็นการรับรองกับเราว่าคุณมีอายุเกิน 13 ปี

ซอฟต์แวร์

บริการบางอย่างของเราอาจอนุญาตให้คุณดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ฝั่งไคลเอนท์ ("ซอฟต์แวร์") ซึ่งอาจมีการอัพเดตโดยอัตโนมัติ ตราบเท่าที่คุณยังคงปฏิบัติตามเงื่อนไขเหล่านี้ เราจะให้สิทธิ์ใช้งานแบบจำกัด ไม่เฉพาะเจาะจงแต่เพียงผู้เดียว โอนสิทธิ์ไม่ได้ และเพิกถอนได้แก่คุณ เพื่อใช้ซอฟต์แวร์สำหรับเข้าถึงบริการนี้เท่านั้น ในกรณีที่ส่วนใดก็ตามของซอฟต์แวร์นี้จัดหาให้ภายใต้สิทธิ์ใช้งานแบบโอเพ่นซอร์ส Dropbox จะดำเนินการให้สิทธิ์ใช้งานดังกล่าวสามารถใช้ได้โดยคุณ และจะระบุอย่างชัดแจ้งให้ใช้ข้อกำหนดของสิทธิ์ใช้งานนั้นแทนบางส่วนของเงื่อนไขเหล่านี้ เว้นแต่ว่าข้อจำกัดต่อไปนี้จะถูกห้ามไว้โดยกฎหมาย คุณตกลงที่จะไม่ทำวิศวกรรมย้อนกลับ หรือแยกประกอบบริการนี้ หรือพยายามดำเนินการดังกล่าว หรือให้ความช่วยเหลือบุคคลใดในการดำเนินการดังกล่าว

บริการเบต้า

บางครั้งเราอาจแนะนำผลิตภัณฑ์หรือคุณสมบัติที่เรายังทำการทดลองหรือประเมินอยู่ในขณะนั้น บริการดังกล่าวจะได้รับการระบุว่าเป็นอัลฟ่า เบต้า ตัวอย่าง การใช้งานระยะแรก หรือการประเมิน (หรืออาจใช้คำหรือข้อความที่มีความหมายในทำนองเดียวกัน) และโปรดทราบว่าบริการเหล่านี้อาจไม่เสถียรเท่าบริการอื่นๆ ของ Dropbox

ข้อมูลของเรา

บริการนี้ได้รับความคุ้มครองภายใต้กฎหมายลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า และกฎหมายอื่นๆ ของสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น เงื่อนไขเหล่านี้ไม่ได้ให้สิทธิ์ กรรมสิทธิ์ หรือผลประโยชน์ในบริการ เนื้อหาของบุคคลอื่นในบริการ เครื่องหมายการค้า โลโก้ Dropbox และคุณสมบัติอื่นๆ ของแบรนด์แก่คุณแต่อย่างใด เรายินดีรับฟังข้อเสนอแนะ แต่โปรดทราบว่า เราอาจใช้ความคิดเห็นหรือคำแนะนำต่างๆ โดยปราศจากข้อผูกพันกับคุณ

ลิขสิทธิ์

เราเคารพในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลอื่น และขอให้คุณเคารพในสิทธิ์ดังกล่าวเช่นเดียวกัน เราจะตอบสนองต่อการแจ้งข้อกล่าวหาในการละเมิดลิขสิทธิ์ หากเป็นไปตามกฎหมาย และการแจ้งนั้นควรรายงานโดยใช้ นโยบายลิขสิทธิ์เราขอสงวนสิทธิ์ในการลบหรือปิดใช้งานเนื้อหาที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิ์ และยกเลิกบัญชีของผู้ที่ละเมิดสิทธิ์ซ้ำๆ ตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้งสำหรับการแจ้งข้อกล่าวหาในการละเมิดลิขสิทธิ์ในบริการของเราคือ:

Copyright Agent
Dropbox, Inc.
333 Brannan Street
San Francisco, CA 94107
copyright@dropbox.com

บัญชีแบบเสียค่าบริการ

การจัดเก็บค่าบริการ  คุณสามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บและเพิ่มคุณสมบัติแบบเสียค่าบริการให้กับบัญชีผู้ใช้ของคุณ (เปลี่ยนบัญชีผู้ใช้ของคุณเป็น "บัญชีแบบเสียค่าบริการ") เราจะจัดเก็บค่าบริการกับคุณโดยอัตโนมัติ นับตั้งแต่วันที่คุณเปลี่ยนไปใช้บัญชีแบบเสียค่าบริการ และในทุกวันที่ครบรอบต่ออายุจนกว่าจะมีการยกเลิก คุณต้องรับผิดชอบสำหรับภาษีทั้งหมดที่เกิดขึ้น และเราจะเรียกเก็บภาษีเมื่อจำเป็นต้องดำเนินการดังกล่าว

ไม่มีการคืนเงิน  คุณสามารถยกเลิกบัญชี Dropbox แบบเสียค่าใช้จ่ายได้ตลอดเวลา แต่คุณจะไม่ได้รับเงินคืน นอกจากจะมีการบังคับในทางกฎหมาย

การลดระดับ  บัญชีแบบเสียค่าใช้จ่ายของคุณจะยังคงใช้ได้ จนกว่าจะมีการยกเลิกหรือบอกเลิกสัญญาภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้ หากคุณไม่ชำระเงินสำหรับบัญชีแบบเสียค่าใช้จ่ายให้ตรงเวลา เราขอสงวนสิทธิ์ในการระงับหรือลดพื้นที่จัดเก็บของคุณไปเป็นระดับพื้นที่แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย

การเปลี่ยนแปลง  เราอาจเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บ แต่เราจะแจ้งให้คุณทราบล่วงหน้าถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวผ่านข้อความไปยังอีเมลแอดเดรสที่เกี่ยวข้องกับบัญชีผู้ใช้ของคุณ

Dropbox Business

ที่อยู่อีเมล หากคุณลงทะเบียนบัญชี Dropbox ด้วยที่อยู่อีเมลที่จัดหาโดยนายจ้างของคุณ นายจ้างจะสามารถบล็อคการใช้งาน Dropbox ของคุณ จนกว่าคุณจะเปลี่ยนไปใช้บัญชี Dropbox Business หรือ Dropbox Enterprise หรือเชื่อมโยงบัญชี Dropbox ของคุณกับที่อยู่อีเมลส่วนตัว

การใช้ Dropbox Business หรือ Dropbox Enterprise หากคุณเข้าร่วมในบัญชี Dropbox Business หรือ Dropbox Enterprise คุณต้องใช้งานบัญชีนี้ตามเงื่อนไขและนโยบายของนายจ้างของคุณ โปรดทราบว่าบัญชี Dropbox Business และบัญชี Dropbox Enterprise อยู่ภายใต้การควบคุมของนายจ้างของคุณ ผู้ดูแลระบบของคุณอาจสามารถเข้าถึง เปิดเผย จำกัด หรือลบข้อมูลในหรือจากบัญชี Dropbox Business หรือบัญชี Dropbox Enterprise ของคุณ นอกจากนี้ ผู้ดูแลระบบยังอาจสามารถจำกัดหรือยุติการเข้าถึงบัญชี Dropbox Business หรือบัญชี Dropbox Enterprise ของคุณได้อีกด้วย หากคุณเปลี่ยนบัญชี Dropbox ที่มีอยู่ไปเป็นบัญชี Dropbox Business หรือบัญชี Dropbox Enterprise ผู้ดูแลระบบของคุณอาจป้องกันมิให้คุณสามารถยกเลิกการเชื่อมโยงบัญชีของคุณออกจากบัญชี Dropbox Business หรือบัญชี Dropbox Enterprise ในภายหลัง

การบอกเลิกสัญญา

คุณสามารถหยุดการใช้งานบริการนี้ได้ตลอดเวลา เรายังขอสงวนสิทธิ์ในการระงับหรือสิ้นสุดบริการได้ตลอดเวลาภายใต้ดุลยพินิจของเราโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ เช่น เราอาจระงับหรือยุติการใช้งานบริการของคุณ หากคุณไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขเหล่านี้ หรือใช้บริการในลักษณะที่อาจเป็นเหตุให้เราต้องรับผิดทางกฎหมาย ขัดขวางการให้บริการ หรือรบกวนการใช้บริการของบุคคลอื่น ยกเว้นแต่บัญชีแบบเสียค่าใช้จ่าย เราขอสงวนสิทธิ์ในการยุติหรือลบบัญชีผู้ใช้ของคุณ หากคุณไม่มีการเข้าถึงบริการของเราเป็นเวลา 12 เดือนติดต่อกัน เราจะแจ้งให้คุณทราบทางอีเมลแอดเดรสที่เชื่อมโยงกับบัญชีผู้ใช้ของคุณก่อนที่จะดำเนินการดังกล่าว

บริการ "ตามที่เป็น"

เราพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะนำเสนอบริการที่ดีเยี่ยม แต่มีบางอย่างที่เราไม่สามารถรับประกันได้ ภายใต้ขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายกำหนด Dropbox และบริษัทในเครือ ซัพพลายเออร์ และผู้จัดจำหน่าย จะไม่ให้การรับประกันไม่ว่าจะโดยชัดแจ้งหรือโดยนัย เกี่ยวกับบริการนี้ บริการนี้จัดหาให้ "ตามที่เป็น" เรายังขอปฏิเสธการรับผิดในการรับประกันใดๆ สำหรับความสามารถในเชิงพาณิชย์ ความเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ และการไม่ละเมิดต่างๆ บางแห่งอาจไม่อนุญาตให้ปฏิเสธความรับผิดในย่อหน้านี้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ข้อกำหนดนี้จะไม่บังคับใช้กับคุณ

การจำกัดความรับผิด

ภายใต้ขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายกำหนด ยกเว้นสำหรับความเสียหายจากการฉ้อโกง การตีความบิดเบือนเพื่อฉ้อโกง หรือความประมาทเลินเล่อของ Dropbox หรือบริษัทในเครือ ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม Dropbox และบริษัทในเครือ ซัพพลายเออร์ หรือผู้จัดจำหน่ายจะไม่ต้องรับผิดชอบต่อ:

(ก) ความเสียหายที่เป็นผลสืบเนื่องไม่ว่าจะในทางอ้อม กรณีพิเศษ อุบัติเหตุ การลงโทษ คำเตือนใดๆ หรือ

(ข) การสูญเสียการใช้งาน ข้อมูล ธุรกิจ หรือผลกำไร ไม่ว่าจะเป็นไปตามทฤษฎีทางกฎหมายใดก็ตาม

ทั้งนี้โดยไม่คำนึงว่า Dropbox หรือบริษัทในเครือจะได้รับการเตือนถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าว หรือแม้แต่ในกรณีที่การแก้ไขไม่สามารถทำตามวัตถุประสงค์หลักที่วางไว้ได้ก็ตาม

นอกจากนี้ Dropbox บริษัทในเครือ ซัพพลายเออร์ และผู้จัดจำหน่าย จะไม่ต้องรับผิดชอบความเสียหายจากสิทธิเรียกร้องทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบริการของบริษัทที่สูงกว่า 20 เหรียญสหรัฐ หรือจำนวนเงินที่คุณจ่ายให้ Dropbox ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาสำหรับบริการที่พาดพิงถึง

บางแห่งอาจไม่อนุญาตให้ปฏิเสธความรับผิดประเภทนี้ในย่อหน้านี้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ข้อกำหนดนี้จะไม่บังคับใช้กับคุณ

การแก้ไขข้อพิพาท

ลองพยายามแก้ไขปัญหากันก่อน  เราต้องการแก้ไขข้อกังวลของคุณโดยไม่จำเป็นต้องใช้การฟ้องร้องคดีอย่างเป็นทางการ ก่อนที่จะยื่นข้อเรียกร้องต่อ Dropbox คุณตกลงที่จะพยายามแก้ไขข้อพิพาทอย่างไม่เป็นทางการโดยติดต่อไปที่ dispute-notice@dropbox.com เราจะพยายามแก้ไขข้อพิพาทนั้นแบบไม่เป็นทางการโดยติดต่อคุณทางอีเมล หากข้อพิพาทดังกล่าวไม่สามารถแก้ไขได้ภายใน 15 วันหลังจากส่งการแจ้ง คุณหรือ Dropbox อาจนำข้อพิพาทนั้นเข้าสู่การพิจารณาคดีอย่างเป็นทางการต่อไป

ศาลยุติธรรมสำหรับกรณีข้อพิพาท. คุณและ Dropbox ตกลงว่าการดำเนินการด้านกฎหมายเพื่อคลี่คลายสิทธิเรียกร้องที่เกี่ยวกับข้อกำหนดการบริการเหล่านี้จะต้องนำไปฟ้องร้องต่อศาลรัฐบาลกลางหรือศาลประจำรัฐของเค้าท์ตี้ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งอยู่ภายใต้ข้อกำหนดอนุญาโตตุลาการตามบทบัญญัติแห่งรัฐ ทั้งคุณและ Dropbox ยอมรับในสถานที่พิจารณาคดีและอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีเหนือบุคคลให้เกิดขึ้นในศาลดังกล่าว

หากคุณเป็นผู้อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกา คุณยังยินยอมตามข้อกำหนดอนุญาโตตุลาการตามบทบัญญัติแห่งรัฐต่อไปนี้

เราเห็นชอบร่วมกันเพื่อให้ตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการ  คุณและ Dropbox เห็นชอบร่วมกันที่จะให้แก้ไขข้อเรียกร้องใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขหรือบริการนี้ผ่านการตัดสินชี้ขาดขั้นสุดท้ายที่มีผลผูกพัน เว้นแต่จะกำหนดไว้ภายใต้ "ข้อยกเว้นของการเห็นชอบร่วมกันเพื่อให้ตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการ" ด้านล่าง

การเลือกที่จะไม่เห็นชอบในการตัดสินชี้ขาด  คุณสามารถปฏิเสธการเห็นชอบร่วมกันเพื่อให้มีการอนุญาโตตุลาการโดย คลิกที่นี่ และส่งแบบฟอร์มการเลือกที่จะไม่เห็นชอบภายใน 30 วันหลังจากยอมรับในเงื่อนไขเหล่านี้

ขั้นตอนในการอนุญาโตตุลาการ  สมาคมอนุญาโตตุลาการของสหรัฐอเมริกา (American Arbitration Association หรือ AAA) จะทำหน้าที่บริหารจัดการการตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการภายใต้ข้อบังคับอนุญาโตตุลาการการค้า (Commercial Arbitration Rules) และกระบวนการเพิ่มเติมสำหรับข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภค (Supplementary Procedures for Consumer Related Disputes) การอนุญาโตตุลาการจะจัดให้มีขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ภายในเขตที่คุณอาศัยหรือทำงานอยู่ หรือในซานฟรานซิสโก (แคลิฟอร์เนีย) หรือสถานที่อื่นใดตามที่เราเห็นชอบ

ค่าธรรมเนียมในการอนุญาโตตุลาการและสิ่งจูงใจ  กฎของ AAA จะควบคุมการชำระค่าธรรมเนียมในการอนุญาโตตุลาการทั้งหมด Dropbox จะชำระค่าธรรมเนียมในการอนุญาโตตุลาการสำหรับข้อเรียกร้องที่มีมูลค่าน้อยกว่า 75,000 ดอลลาร์ หากคุณได้รับคำวินิจฉัยชี้ขาดให้ได้รับเงินจำนวนมากกว่าที่เราเสนอเพื่อไกล่เกลี่ยข้อเรียกร้องนั้น เราจะจ่ายเงินให้คุณเพิ่มเติมจากคำวินิจฉัยชี้ขาดนั้นอีกเป็นจำนวน 1,000 ดอลลาร์ Dropbox จะไม่เรียกร้องค่าธรรมเนียมทนายความและค่าใช้จ่ายใดๆ ในการอนุญาโตตุลาการ เว้นแต่อนุญาโตตุลาการจะพิจารณาไม่รับฟ้องตามข้อเรียกร้องของคุณ

ข้อยกเว้นของการเห็นชอบร่วมกันเพื่อให้ตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการคุณหรือ Dropbox อาจยืนยันสิทธิเรียกร้อง หากสิทธิเรียกร้องเหล่านั้นเข้าเกณฑ์ ในศาลคดีมโนสาเร่ (Small Claims Court) ในซานฟรานซิสโก (แคลิฟอร์เนีย) หรือเขตใดๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกาที่คุณอาศัยหรือทำงานอยู่ คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจยื่นคดีความเพื่อให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้หยุดการใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการใช้บริการในทางที่ผิด หรือละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา (เช่น เครื่องหมายการค้า ความลับทางการค้า ลิขสิทธิ์ หรือสิทธิบัตร) โดยไม่ขอให้มีการอนุญาโตตุลาการก่อนในเบื้องต้น หรือไม่มีการดำเนินขั้นตอนการแก้ไขข้อพิพาทแบบไม่เป็นทางการตามที่อธิบายไว้ข้างต้น หากพบว่าไม่สามารถนำการเห็นชอบร่วมกันเพื่อให้ตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการมาใช้กับคุณหรือสิทธิเรียกร้องของคุณได้ คุณยอมรับต่อเขตอำนาจแต่เพียงแห่งเดียวของศาลประจำรัฐและของรัฐบาลกลางในเค้าท์ตี้ซานฟรานซิสโก แคลิฟอร์เนีย เพื่อแก้ไขสิทธิเรียกร้องของคุณ

ไม่มีการดำเนินคดีแบบกลุ่มคุณสามารถแก้ไขข้อพิพาทกับเราในลักษณะแบบรายบุคคล และจะไม่ยื่นสิทธิเรียกร้องในฐานะโจทก์หรือสมาชิกในกลุ่มผู้ยื่นฟ้องเพื่อดำเนินคดีแบบกลุ่ม แบบรวม หรือแบบโดยตัวแทน ทั้งนี้ ไม่อนุญาตให้มีการอนุญาโตตุลาการแบบกลุ่ม การดำเนินคดีแบบกลุ่ม การดำเนินคดีโดยอัยการในภาคเอกชน และการรวมเข้ากับการอนุญาโตตุลาการอื่นๆ

กฎหมายที่ควบคุม

เงื่อนไขเหล่านี้จะอยู่ภายใต้กฎหมายของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ยกเว้นจะมีข้อขัดแย้งกับหลักการทางกฎหมาย นอกจากต้องเป็นไปตามบังคับโดยกฏหมายพื้นฐานของขอบเขตอำนาจศาลอื่นใด

ข้อตกลงที่สมบูรณ์

เงื่อนไขเหล่านี้ประกอบกันเป็นข้อตกลงที่สมบูรณ์ระหว่างคุณและ Dropbox โดยเกี่ยวข้องกับสาระสำคัญของเงื่อนไขเหล่านี้ และจะใช้แทนที่และมีผลบังคับใช้เหนือข้อตกลงหรือข้อกำหนดและเงื่อนไขที่มีขึ้นก่อนหน้านี้หรือในเวลาเดียวกันนี้ อันเกี่ยวข้องกับสาระสำคัญของเงื่อนไขเหล่านี้ เงื่อนไขเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เกิดสิทธิ์ของผู้รับผลประโยชน์บุคคลที่สาม

การสละสิทธิ์ การเป็นโมฆะเป็นบางส่วน และการโอนสิทธิ์

การที่ Dropbox ไม่สามารถบังคับใช้ข้อกำหนดไม่ได้แปลว่าเป็นการสละสิทธิ์ในสิทธิ์ของ Dropbox ที่จะดำเนินการดังกล่าวในภายหลัง หากข้อกำหนดใดไม่สามารถบังคับใช้ได้ ข้อกำหนดที่เหลืออยู่ของเงื่อนไขนี้จะยังคงมีผลบังคับใช้โดยสมบูรณ์ต่อไป และเงื่อนไขที่ไม่สามารถบังคับใช้ได้จะถูกทดแทนเพื่อแสดงถึงเจตนาของเราได้อย่างชัดเจนที่สุดเท่าที่ทำได้ คุณไม่สามารถโอนสิทธิ์ใดๆ ของคุณภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้ และความพยายามดังกล่าวจะเป็นโมฆะ Dropbox อาจโอนสิทธิ์ของเราไปยังบริษัทในเครือหรือบริษัทย่อย หรือไปยังผู้รับช่วงในผลประโยชน์ทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้

การแก้ไข

เราอาจแก้ไขเงื่อนไขเหล่านี้เป็นครั้งคราว และจะประกาศแจ้งเงื่อนไขเวอร์ชันล่าสุดไว้บนเว็บไซต์ของเราเสมอ หากการแก้ไขนั้นทำให้สิทธิ์ของคุณลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เราจะแจ้งให้คุณทราบ (เช่น โดยการส่งข้อความไปยังอีเมลแอดเดรสที่เกี่ยวข้องกับบัญชีผู้ใช้ของคุณ โพสต์ในบล็อคของเราหรือบนหน้านี้) การใช้หรือเข้าถึงบริการของเราต่อไป หลังจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นมีผลบังคับใช้แล้ว เป็นการแสดงว่าคุณยอมรับที่จะผูกพันตามเงื่อนไขที่ได้รับการแก้ไขแล้ว

คำแปลนี้จัดให้ไว้เพื่อความสะดวกเพียงเท่านั้น หากมีข้อขัดแย้งใดๆ ให้ยึดถือ เวอร์ชันภาษาอังกฤษ ไว้เป็นหลัก

นโยบายความเป็นส่วนตัวของ Dropbox

ประกาศ: 3 ตุลาคม 2016

ขอบคุณที่ใช้ Dropbox! เราจะอธิบายวิธีที่เราเก็บรวบรวม ใช้งาน และจัดการข้อมูลของคุณ เมื่อคุณใช้งานเว็บไซต์ ซอฟต์แวร์ และบริการของเรา ("บริการ") ณ ที่นี้

ข้อมูลใดบ้างและเพราะอะไร

เราเก็บรวบรวมและใช้งานข้อมูลต่อไปนี้เพื่อนำเสนอ ปรับปรุง และปกป้องบริการของเรา:

บัญชี  เราเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ เช่น ชื่อ อีเมลแอดเดรส หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลการชำระเงิน และที่อยู่ไปรษณีย์ของคุณ แล้วนำมาเชื่อมโยงกับบัญชีผู้ใช้ของคุณ บริการบางอย่างของเราช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงบัญชีผู้ใช้และข้อมูลของคุณโดยผ่านผู้ให้บริการรายอื่น

บริการ เมื่อคุณใช้บริการของเรา เราจัดเก็บ ดำเนินการ และส่งไฟล์ของคุณ (รวมถึงข้อมูลอื่นๆ เช่น รูปภาพ ข้อมูลที่มีการจัดโครงสร้าง และอีเมล) และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับไฟล์นั้น (เช่น แท็กตำแหน่งที่ตั้งในรูป) หากคุณให้สิทธิ์แก่เราในการเข้าถึงข้อมูลติดต่อของคุณ เราจะจัดเก็บข้อมูลติดต่อเหล่านี้ไว้บนบริการของเราเพื่อให้คุณใช้งานได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถดำเนินการต่างๆ เช่น แบ่งปันข้อมูลของคุณ ส่งอีเมล และเชิญบุคคลอื่นมาใช้บริการนี้ได้อย่างง่ายดาย

การใช้งานเราเก็บรวบรวมข้อมูลจากและเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่คุณใช้เพื่อเข้าถึงบริการนี้ ซึ่งรวมถึงข้อมูลต่างๆ เช่นที่อยู่ IP ประเภทเบราเซอร์และอุปกรณ์ที่คุณใช้งาน หน้าเว็บที่คุณเยี่ยมชมก่อนมายังเว็บไซต์ของเรา และข้อมูลระบุตัวตนที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ของคุณ อุปกรณ์ของคุณอาจส่งข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งไปยังบริการได้อีกด้วย (ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของอุปกรณ์นั้น)

คุกกี้และเทคโนโลยีอื่นๆ  เราใช้เทคโนโลยีต่างๆ เช่น คุกกี้และพิกเซลแท็ก เพื่อนำเสนอ ปรับปรุง ปกป้อง รวมทั้งส่งเสริมบริการของเรา เช่น คุกกี้ช่วยเราในด้านต่างๆ เช่น จดจำชื่อผู้ใช้สำหรับการเยี่ยมชมครั้งถัดไปของคุณ ทำความเข้าใจวิธีการที่คุณโต้ตอบกับบริการของเรา และปรับปรุงบริการโดยอิงตามข้อมูลเหล่านั้น คุณสามารถตั้งค่าเบราเซอร์ของคุณไม่ให้ยอมรับคุกกี้ แต่การทำเช่นนี้จะจำกัดความสามารถของคุณในการใช้งานบริการของเรา หากระบบของเราได้รับสัญญาณ DNT:1 จากเบราเซอร์ของคุณ เราจะตอบกลับสัญญาณดังกล่าวตามที่ระบุไว้ ที่นี่

กับใคร

เราอาจเปิดเผยข้อมูลตามที่ระบุไว้ด้านล่าง แต่เราจะไม่ขายข้อมูลให้กับผู้โฆษณาหรือบุคคลที่สามอื่นๆ

บุคคลอื่นที่ทำงานให้กับ DropboxDropbox ใช้บริษัทภายนอกบางรายที่เชื่อถือได้ (เช่น ผู้ให้บริการทีมสนับสนุนลูกค้าและบริการด้าน IT) เพื่อช่วยเรานำเสนอ ปรับปรุง ปกป้อง และส่งเสริมบริการของเรา บริษัทภายนอกเหล่านี้จะเข้าถึงข้อมูลของคุณเพื่อดำเนินงานในนามของเราเท่านั้นโดยเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ทั้งนี้เราจะยังคงรับผิดชอบให้บุคคลเหล่านั้นจัดการข้อมูลของคุณตามคำสั่งของเรา

ผู้ใช้รายอื่น บริการของเราจะแสดงข้อมูล เช่น ชื่อและอีเมลแอดเดรสของคุณแก่ผู้ใช้รายอื่นในที่ต่างๆ เช่น โปรไฟล์ผู้ใช้ของคุณ และการแจ้งที่แบ่งปัน คุณสมบัติบางอย่างจะช่วยให้คุณสามารถเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมแก่ผู้ใช้รายอื่นด้วยเช่นกัน

แอพพลิเคชันอื่นๆ คุณยังสามารถอนุญาตให้บุคคลที่สามเข้าถึงข้อมูลและบัญชีผู้ใช้ของคุณได้ เช่น ผ่าน API ของ Dropbox โปรดจำไว้ว่า การใช้งานข้อมูลของคุณโดยบุคคลดังกล่าวจะถูกควบคุมโดยนโยบายความเป็นส่วนตัวและข้อกำหนด

ผู้ดูแลระบบ Dropbox Business, Enterprise และ Educationหากคุณเป็นผู้ใช้ Dropbox Business, Dropbox Enterprise หรือ Dropbox Education ผู้ดูแลระบบของคุณอาจสามารถเข้าถึงและควบคุมบัญชี Dropbox Business, Enterprise หรือ Education ของคุณ โปรดดูนโยบายภายในขององค์กรของคุณหากมีคำถามเกี่ยวกับกรณีนี้ หากคุณไม่ใช่ผู้ใช้ Dropbox Business, Enterprise หรือ Education แต่ติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้ Dropbox Business, Enterprise หรือ Education (เช่น เข้าร่วมโฟลเดอร์ที่แบ่งปันหรือเข้าถึงข้อมูลที่แบ่งปันโดยผู้ใช้รายนั้น) สมาชิกของหน่วยงานนั้นอาจสามารถดูชื่อ ที่อยู่อีเมล และที่อยู่ IP ของคุณที่เกี่ยวข้องกับบัญชีของคุณในขณะที่มีการติดต่อสื่อสารกัน

กฎหมายและคำสั่ง เราอาจเปิดเผยข้อมูลของคุณให้แก่บุคคลที่สาม หากเราพิจารณาว่า การเปิดเผยดังกล่าวมีความจำเป็นอย่างสมเหตุสมผลเพื่อ (ก) ปฏิบัติตามกฎหมาย (ข) ปกป้องบุคคลใดๆ จากการเสียชีวิตหรือบาดเจ็บอย่างรุนแรง (ค) ป้องกันการฉ้อโกงหรือใช้ Dropbox หรือผู้ใช้รายอื่นในทางที่ผิด หรือ (ง) ปกป้องสิทธิ์ในกรรมสิทธิ์ของ Dropbox

การดูแลรักษาข้อมูลของคุณเป็นภารกิจที่สำคัญยิ่งของเราและเป็นความรับผิดชอบที่เรายึดมั่น เราเชื่อว่าข้อมูลของผู้ใช้ควรได้รับการปกป้องตามกฎหมายที่เท่าเทียมกันโดยไม่คำนึงว่าข้อมูลดังกล่าวจัดเก็บอยู่ในบริการของเราหรือบนฮาร์ดไดรฟ์ในคอมพิวเตอร์ที่บ้านของผู้ใช้ เราจะปฏิบัติตาม หลักการเกี่ยวกับการขอข้อมูลของภาครัฐ ต่อไปนี้ เมื่อได้รับ พิจารณา และตอบสนองต่อการขอของภาครัฐ (รวมถึงการขอที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติ) สำหรับข้อมูลผู้ใช้ของเรา:

  • โปร่งใส
  • ต่อต้านคำขอแบบครอบคลุม
  • ปกป้องผู้ใช้ทั้งหมด และ
  • ให้บริการที่เชื่อถือได้
โปรดไปที่ หลักการเกี่ยวกับคำขอข้อมูลของภาครัฐ และ รายงานความโปร่งใส เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

อย่างไร

ความปลอดภัย เรามีทีมงานที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลของคุณโดยเฉพาะ รวมถึงทดสอบจุดอ่อนต่างๆ ที่เป็นไปได้ เรายังทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาคุณสมบัติต่างๆ เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยมากขึ้นแก่ข้อมูลของคุณ นอกเหนือจากคุณสมบัติที่มีอยู่แล้ว เช่น การตรวจสอบตัวตนแบบสองแฟคเตอร์ การเข้ารหัสไฟล์สำหรับการจัดเก็บข้อมูล และการแจ้งเตือนเมื่อมีอุปกรณ์และแอพใหม่เชื่อมโยงกับบัญชีผู้ใช้ของคุณ

การเก็บรักษาข้อมูลเราจะเก็บรักษาข้อมูลที่คุณจัดเก็บไว้ในบริการของเราตราบเท่าที่เราจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวในการให้บริการแก่คุณ หากคุณลบบัญชีผู้ใช้ของคุณ เราจะลบข้อมูลนี้ด้วย แต่โปรดทราบว่า: (1) อาจมีความล่าช้าในการลบข้อมูลนี้จากเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลสำรองของเรา และ (2) เราอาจเก็บรักษาข้อมูลนี้ หากเราจำเป็นต้องใช้เพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพันทางกฎหมายของเรา แก้ไขข้อพิพาท หรือบังคับใช้ข้อตกลงของเรา คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณโดยการเข้าสู่ระบบบัญชี Dropbox เรียนรู้เพิ่มเติม ที่นี่

ที่ไหน

ทั่วโลกเพื่อให้บริการแก่คุณ เราอาจจัดเก็บ ประมวลผล และส่งข้อมูลในสหรัฐอเมริกาและสถานที่ตั้งทั่วโลก ซึ่งรวมถึงสถานที่อื่นๆ นอกประเทศของคุณ ข้อมูลนี้อาจได้รับการจัดเก็บไว้ในอุปกรณ์ที่คุณใช้เพื่อเข้าถึงบริการด้วย

โครงการปกป้องความเป็นส่วนตัวระหว่างสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ (EU-U.S. Privacy Shield) และ การให้ความคุ้มครองแห่งสหรัฐอเมริกาและสวิตเซอร์แลนด์ (U.S.- Swiss Safe Harbor)ในระหว่างการถ่ายโอนข้อมูลจากสหภาพยุโรป เขตเศรษฐกิจยุโรป และสวิตเซอร์แลนด์ Dropbox จะใช้กลไกทางกฏหมายหลายรูปแบบซึ่งรวมถึงสัญญากับผู้ใช้ของเรา Dropbox ปฏิบัติตามกรอบโครงสร้างและหลักการการให้ความคุ้มครองแห่งสหรัฐอเมริกาและสวิตเซอร์แลนด์ (U.S.- Swiss Safe Harbor) นอกจากนี้ เรายังเข้าร่วมโครงการปกป้องความเป็นส่วนตัวระหว่างสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ (“การปกป้องความเป็นส่วนตัว (Privacy Shield)”) และได้ปฏิบัติตามกรอบโครงสร้างและหลักการการให้ความคุ้มครองของโครงการนี้ คุณจะพบใบรับรองการให้ความคุ้มครอง (Safe Harbor) ของ Dropbox ที่นี่และใบรับรองการปกป้องความเป็นส่วนตัว (Privacy Shield) ที่นี่นอกจากนี้ คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Privacy Shield ที่ https://www.privacyshield.govและ Safe Harbor ที่ http://2016.export.gov/safeharbor/swiss/

Dropbox อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรรมาธิการการค้าแห่งรัฐบาลสหรัฐฯ (U.S. Federal Trade Commission) JAMS คือหน่วยงานอิสระที่รับผิดชอบในการตรวจสอบและแก้ปัญหาข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติตามการให้ความคุ้มครอง (Safe Harbor) และการปกป้องความเป็นส่วนตัว (Privacy Shield) ของเรา ซึ่งบริการนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ในเบื้องต้น เราขอให้คุณส่งข้อร้องเรียนใดๆ ที่มีมาถึงเราโดยตรงที่ privacyshield@dropbox.comหากคุณยังไม่พอใจกับคำตอบของเรา โปรดติดต่อ JAMS ที่ https://www.jamsadr.com/eu-us-privacy-shieldในกรณีที่ JAMS ไม่สามารถตอบข้อกังวลของคุณ คุณอาจมีสิทธิ์อนุญาโตตุลาการที่มีผลผูกพันภายใต้หลักการการปกป้องความเป็นส่วนตัว (Privacy Shield)

การเปลี่ยนแปลง

หากในกรณีที่เรามีการปรับโครงสร้างองค์กร ควบรวมกิจการ ซื้อกิจการ หรือจำหน่ายสินทรัพย์ของเรา ข้อมูลของคุณอาจได้รับการถ่ายโอนโดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงนั้น เราจะแจ้งให้คุณทราบ (เช่น ผ่านข้อความที่ส่งไปยังอีเมลแอดเดรสของบัญชีผู้ใช้ของคุณ) เกี่ยวกับข้อตกลงนั้นและแจ้งให้ทราบถึงทางเลือกของคุณในกรณีดังกล่าว

เราอาจแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว และจะประกาศแจ้งนโยบายเวอร์ชันล่าสุดไว้บนเว็บไซต์ของเรา หากการแก้ไขนั้นลดสิทธิ์ที่คุณมีลงอย่างมาก เราจะแจ้งการแก้ไขนั้นให้คุณทราบ

การติดต่อ

หากคุณมีคำถามหรือข้อกังวลเกี่ยวกับ Dropbox บริการของเรา และความเป็นส่วนตัว โปรดติดต่อเราที่ privacy@dropbox.com

คำแปลนี้จัดให้ไว้เพื่อความสะดวกเพียงเท่านั้น หากมีข้อขัดแย้งใดๆ ให้ยึดถือ เวอร์ชันภาษาอังกฤษ ไว้เป็นหลัก

ข้อตกลงของ Dropbox Business

ประกาศ: 14 กันยายน 2016

ข้อตกลงของ Dropbox Business นี้ ("ข้อตกลง") เป็นข้อตกลงระหว่าง Dropbox International Unlimited Company หากองค์กรของคุณตั้งอยู่นอกสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก ("อเมริกาเหนือ") หรือหากองค์กรของคุณตั้งอยู่ในอเมริกาเหนือ กับ Dropbox, Inc. ซึ่งเป็นบริษัท Delaware corporation ("Dropbox") และหน่วยงานที่ยอมรับในข้อตกลงต่างๆ เหล่านี้ ("ลูกค้า") ข้อตกลงนี้จะใช้บังคับการเข้าถึงและการใช้งานซอฟต์แวร์ไคลเอนท์และบริการของ Dropbox Business (โดยเรียกรวมว่า "Dropbox Business") รวมทั้งบริการเบต้าอื่นๆ ที่พร้อมใช้งานสำหรับคุณ (เมื่อรวมกับ Dropbox Business จะเรียกว่า "บริการ") การคลิก "ฉันยอมรับ" เพื่อลงนามในสัญญาสำหรับบริการหรือการใช้งานบริการ เป็นการแสดงว่าคุณยอมรับในข้อตกลงนี้ในฐานะลูกค้า

ในกรณีที่ Dropbox, Inc. ประมวลผลข้อมูลของลูกค้าในนามของลูกค้า ภายใต้บังคับของกฎหมายในประเทศที่ใช้ข้อกำหนดการปกป้องข้อมูลของสหภาพยุโรป (EU Data Protection Directive (95/46/EC)) ("ข้อกำหนดการปกป้องข้อมูลของสหภาพยุโรป") เมื่อคลิก "ฉันยอมรับ" เท่ากับคุณยอมรับในข้อสัญญามาตรฐานของสหภาพยุโรป (EU Standard Contractual Clauses) กับ Dropbox, Inc. สำหรับการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปให้ผู้ประมวลผลที่ระบุไว้ในวาระที่ 1

หากคุณยอมรับข้อตกลงนี้และวาระที่ 1 (หากมี) สำหรับการใช้บริการโดยองค์กร เท่ากับคุณยอมรับข้อตกลงนี้ในนามขององค์กรนั้น คุณต้องมีอำนาจในการผูกมัดองค์กรนั้นกับข้อกำหนดเหล่านี้ มิฉะนั้น คุณจะต้องไม่ลงทะเบียนสำหรับบริการนี้

  1. บริการ
    1. ข้อกำหนดของบริการ  ลูกค้าและผู้ใช้บัญชีบริการของลูกค้า ("ผู้ใช้") สามารถเข้าถึงและใช้บริการได้ตามที่กำหนดไว้ในข้อตกลงนี้
    2. สิ่งอำนวยความสะดวกและการประมวลผลข้อมูล  Dropbox จะใช้มาตรฐานรักษาความปลอดภัยในเชิงเทคนิคและการจัดระเบียบตามมาตรฐานของอุตสาหกรรมเป็นอย่างน้อยเพื่อถ่ายโอน จัดเก็บ และประมวลผลข้อมูลลูกค้า มาตรการเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อปกป้องความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลลูกค้าและป้องกันการเข้าถึง การใช้งาน และการประมวลผลข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือผิดกฎหมาย ลูกค้ายินยอมให้ Dropbox ถ่ายโอน จัดเก็บ และประมวลผลข้อมูลลูกค้าในสหรัฐอเมริกาและสถานที่อื่น นอกเหนือจากประเทศของลูกค้าได้ ในกรณีที่ข้อมูลของลูกค้าอยู่ภายใต้บังคับของข้อกำหนดการปกป้องข้อมูลของสหภาพยุโรปและ Dropbox ได้ประมวลผลข้อมูลนั้นในฐานะผู้ประมวลผลโดยได้ดำเนินการในนามของลูกค้า (ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูล) Dropbox จะใช้และประมวลผลข้อมูลลูกค้าดังกล่าวตามที่ลูกค้าระบุเพื่อให้บริการและปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของ Dropbox ที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงนี้ "ข้อมูลลูกค้า" หมายถึงข้อมูลที่จัดเก็บและข้อมูลบัญชีผู้ใช้ "ข้อมูลที่จัดเก็บ" หมายถึงไฟล์และข้อมูลที่มีการจัดโครงสร้างที่ส่งไปยังบริการโดยลูกค้าหรือผู้ใช้ "ข้อมูลบัญชี" หมายถึงข้อมูลบัญชีหรือข้อมูลติดต่อที่ส่งไปยังบริการโดยลูกค้าหรือผู้ใช้ปลายทาง
    3. การแก้ไขบริการ  Dropbox อาจอัพเดตบริการเป็นครั้งคราว หาก Dropbox เปลี่ยนแปลงบริการในลักษณะใดๆ ที่จะลดประสิทธิภาพในการทำงานลงอย่างมีนัยสำคัญ Dropbox จะแจ้งให้ลูกค้าทราบผ่านทางอีเมลแอดเดรสที่เกี่ยวข้องกับบัญชีผู้ใช้นั้น
    4. ซอฟต์แวร์  บริการบางอย่างอนุญาตให้ลูกค้าดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ของ Dropbox ซึ่งอาจมีการอัพเดทโดยอัตโนมัติ ลูกค้าสามารถใช้ซอฟต์แวร์นี้เพื่อเข้าถึงบริการเท่านั้น หากส่วนใดก็ตามของซอฟต์แวร์นี้จัดหาให้ภายใต้สิทธิ์ใช้งานแบบโอเพ่นซอร์ส Dropbox จะดำเนินการให้สิทธิ์ใช้งานดังกล่าวสามารถใช้ได้โดยลูกค้า และจะระบุอย่างชัดแจ้งให้ใช้ข้อกำหนดของสิทธิ์ใช้งานนั้นแทนบางส่วนของเงื่อนไขของข้อตกลงนี้
    5. บริการเบต้าDropbox อาจมอบคุณสมบัติหรือผลิตภัณฑ์ที่เรายังทำการทดลองหรือประเมินอยู่ในขณะนั้น ผลิตภัณฑ์และคุณสมบัติดังกล่าวจะได้รับการระบุว่าเป็นอัลฟ่า เบต้า ตัวอย่าง การใช้งานล่วงหน้า หรือการประเมิน (หรืออาจเป็นคำหรือข้อความที่มีความหมายในทำนองเดียวกัน) (โดยรวมเรียกว่า "บริการเบต้า") โดยไม่คำนึงถึงข้อขัดแย้งใดๆ ในข้อตกลงนี้หรือในวาระที่ 1 ข้อตกลงต่อไปนี้มีผลต่อบริการเบต้าทั้งหมด: (ก) คุณสามารถใช้หรือปฏิเสธการใช้บริการเบต้าใดๆ (ข) บริการเบต้าอาจถูกยกเลิกการสนับสนุนหรืออาจเปลี่ยนแปลงเมื่อใดก็ได้โดยไม่แจ้งให้คุณทราบ (ค) บริการเบต้าอาจไม่เสถียรหรือพร้อมใช้งานเท่าเทียมกับ Dropbox Business (ง) บริการเบต้าไม่ได้อยู่ภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยและการตรวจสอบต่างๆ ซึ่ง Dropbox Business ต้องมี และ (จ) DROPBOX จะไม่รับผิดชอบกรณีใดๆ ที่เกิดจากหรือเกี่ยวเนื่องกับบริการเบต้า การใช้งานถือเป็นความเสี่ยงของคุณเอง
  2. ข้อผูกพันของลูกค้า
    1. การปฏิบัติตามข้อกำหนดลูกค้าต้องรับผิดชอบในการใช้บริการของผู้ใช้ของตน ลูกค้าและผู้ใช้ต้องใช้บริการโดยปฏิบัติตาม นโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ลูกค้าจะต้องได้รับการยินยอมจากผู้ใช้เพื่ออนุญาตให้ผู้ดูแลระบบสามารถเข้าไปเกี่ยวข้องในกิจกรรมต่างๆ ตามที่ได้ระบุไว้ในข้อตกลงนี้ และเพื่ออนุญาตให้ Dropbox สามารถให้บริการได้ ลูกค้าจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่บังคับใช้ในการใช้งานบริการของลูกค้า หากมี
    2. การดูแลจัดการบริการนี้โดยลูกค้า  ลูกค้าอาจระบุให้ผู้ใช้ปลายทางเป็น "ผู้ดูแลระบบ" โดยใช้แผงควบคุมของผู้ดูแลระบบ ผู้ดูแลระบบอาจสามารถเข้าถึง เปิดเผย จำกัด หรือลบข้อมูลลูกค้าในหรือจากบัญชีผู้ใช้บริการ ผู้ดูแลระบบยังอาจสามารถติดตามตรวจสอบ จำกัด หรือยุติการเข้าถึงบัญชีผู้ใช้บริการได้อีกด้วย ความรับผิดชอบของ Dropbox ไม่ได้ครอบคลุมถึงการบริหารจัดการภายในหรือการดูแลระบบของบริการ ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบใน: (i) การเก็บรักษาความลับของรหัสผ่านและบัญชีผู้ดูแลระบบ (ii) จัดการสิทธิ์ในการเข้าถึงบัญชีผู้ดูแลระบบ และ (iii) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการใช้งานบริการนี้ของผู้ดูแลระบบเป็นไปตามข้อตกลงนี้ ลูกค้ารับทราบว่าหากลูกค้าซื้อบริการผ่านตัวแทนจำหน่าย และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของตัวแทนจำหน่ายดังกล่าวเป็นผู้ดูแลระบบบัญชีบริการของลูกค้า ตัวแทนจำหน่ายอาจสามารถควบคุมข้อมูลบัญชี รวมถึง ข้อมูลของลูกค้า และเข้าถึงบัญชีบริการของลูกค้าดังที่อธิบายไว้ข้างต้นได้
    3. การใช้งานและการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต  ลูกค้าจะต้องป้องกันมิให้ผู้ใช้ใช้งานบริการนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต และต้องยุติการใช้งานหรือเข้าถึงบริการนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต บริการนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้ที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี ลูกค้าจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า ไม่มีการอนุญาตให้เยาวชนที่อายุต่ำกว่า 13 ปีใช้บริการนี้ ลูกค้าจะแจ้งให้ Dropbox ทราบโดยทันที หากมีการใช้งานหรือเข้าถึงบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต
    4. การใช้งานที่จำกัด  ลูกค้าจะต้องไม่ (i) ขาย ขายต่อ หรือให้เช่าซื้อบริการนี้ หรือ (ii) ใช้บริการนี้เพื่อทำกิจกรรมใดๆ ที่การใช้หรือไม่สามารถใช้บริการนี้อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อร่างกาย การเสียชีวิต หรือบาดเจ็บ หรือ (iii) ทำวิศวกรรมย้อนกลับในส่วนบริการ หรือไม่พยายามหรือไม่ให้การช่วยเหลือบุคคลอื่นใดในการดำเนินการดังกล่าว เว้นแต่การจำกัดนั้นจะถูกห้ามโดยข้อกฎหมาย
    5. คำขอของบุคคลที่สาม
      1. "คำขอของบุคคลที่สาม" หมายถึงคำขอจากบุคคลที่สามสำหรับข้อมูลบันทึกที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของผู้ใช้ ซึ่งรวมถึงข้อมูลในหรือจากบัญชีบริการของผู้ใช้หรือลูกค้า คำขอของบุคคลที่สามอาจประกอบด้วยหมายค้น คำสั่งศาล หรือหมายศาล หรือคำขออื่นใดที่มีการลงนามยินยอมจากผู้ใช้เพื่ออนุญาตให้เปิดเผยข้อมูล
      2. ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบในการตอบสนองต่อคำขอของบุคคลที่สามโดยใช้การเข้าถึงของตนเองต่อข้อมูลดังกล่าว ลูกค้าจะดำเนินการจัดหาข้อมูลที่จำเป็นเพื่อตอบสนองต่อคำขอของบุคคลที่สามและจะติดต่อ Dropbox เฉพาะกรณีที่ลูกค้าไม่สามารถจัดหาข้อมูลนั้น แม้จะได้ใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุดแล้วก็ตาม
      3. Dropbox จะใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ภายในกรอบที่อนุญาตโดยกฎหมายและข้อกำหนดของคำขอของบุคคลที่สามเพื่อ: (ก) แจ้งให้ลูกค้าของ Dropbox ทราบโดยทันทีเมื่อได้รับคำขอของบุคคลที่สาม (ข) ปฏิบัติตามคำขอที่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ของลูกค้าเกี่ยวกับความพยายามในการต่อต้านคำขอของบุคคลที่สาม และ (ค) จัดหาข้อมูลหรือเครื่องมือให้แก่ลูกค้าตามความจำเป็นของลูกค้าในการตอบสนองต่อคำขอของบุคคลที่สาม (ในกรณีที่ลูกค้าไม่สามารถจัดหาข้อมูลดังกล่าวได้) หากลูกค้าไม่สามารถตอบสนองต่อคำขอของบุคคลที่สามได้โดยทันที Dropbox อาจดำเนินการให้แทน แต่มิได้หมายความว่าเรามีข้อผูกมัดที่จะดำเนินการดังกล่าวให้แต่อย่างใด
  3. บริการของบุคคลที่สาม  หากลูกค้าใช้บริการของบุคคลที่สามกับบริการนี้ (เช่น บริการที่ใช้ API ของ Dropbox) (ก) Dropbox จะไม่รับผิดชอบต่อการกระทำหรือการละเว้นไม่กระทำการใดๆ ของบุคคลที่สาม ซึ่งรวมถึงการใช้ข้อมูลของลูกค้าหรือผู้ใช้โดยบุคคลที่สาม และ (ข) Dropbox จะไม่รับประกันหรือสนับสนุนบริการใดๆ ที่จัดหาให้โดยบุคคลที่สาม
  4. การระงับชั่วคราว
    1. การระงับบัญชีผู้ใช้โดย Dropbox  หากผู้ใช้ (i) ละเมิดข้อตกลงนี้ หรือ (iii) ใช้บริการในลักษณะที่ Dropbox เชื่อได้อย่างมีเหตุผลว่า อาจทำให้เราต้องรับผิด หากเป็นเช่นนั้น Dropbox อาจขอให้ลูกค้าระงับหรือยุติบัญชีผู้ใช้ที่เกี่ยวข้อง หากลูกค้าไม่สามารถระงับหรือยุติบัญชีผู้ใช้ได้ในทันที Dropbox อาจดำเนินการดังกล่าวเอง
    2. กรณีฉุกเฉินด้านความปลอดภัย  ไม่ว่าจะมีข้อกำหนดในข้อตกลงนี้อย่างไรก็ตาม แต่ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินด้านความปลอดภัย Dropbox อาจระงับการใช้บริการโดยอัตโนมัติ Dropbox จะใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลในการปรับการระงับใช้ให้แคบลงที่สุดตามที่จำเป็น เพื่อป้องกันหรือยุติกรณีฉุกเฉินด้านความปลอดภัยนั้น "กรณีฉุกเฉินด้านความปลอดภัย" หมายถึง: (i) ใช้บริการที่ขัดขวางหรืออาจขัดขวางการให้บริการ การใช้งานบริการของลูกค้ารายอื่น หรือขัดขวางโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้เพื่อให้บริการ และ (ii) การเข้าถึงบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตของบุคคลที่สาม
  5. สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา
    1. การสงวนสิทธิ์  ข้อตกลงนี้จะไม่ให้ (i) สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในข้อมูลผู้ใช้แก่ Dropbox หรือ (ii) สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในบริการหรือเครื่องหมายการค้าของ Dropbox หรือคุณสมบัติต่างๆ ของแบรนด์แก่ลูกค้า เว้นแต่จะมีการระบุไว้โดยชัดแจ้งในที่นี้ "สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา" หมายถึงสิทธิ์ในปัจจุบันและอนาคตที่ครอบคลุมทั่วโลกภายใต้สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ ความลับทางการค้า เครื่องหมายการค้า ธรรมสิทธิ และสิทธิ์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันอื่นๆ
    2. การอนุญาตแบบจำกัด  ลูกค้าให้สิทธิ์แบบจำกัดแก่ Dropbox ซึ่งจำเป็นอย่างสมเหตุสมผลสำหรับ Dropbox ในการให้บริการ (เช่น การโฮสต์ข้อมูลที่จัดเก็บ) การอนุญาตนี้ยังครอบคลุมไปถึงบริษัทในเครือและบุคคลที่สามที่เชื่อถือได้ซึ่ง Dropbox ร่วมงานด้วยเพื่อเสนอบริการของเรา (เช่น ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินซึ่งใช้เพื่อดำเนินการชำระค่าธรรมเนียม)
    3. คำแนะนำ  Dropbox อาจใช้ แก้ไข และนำข้อเสนอแนะ ความเห็น หรือคำแนะนำที่ลูกค้าหรือผู้ใช้ส่งให้แก่เรา หรือโพสต์ไว้ในฟอรัมของ Dropbox ไปผนวกรวมกับผลิตภัณฑ์และบริการ ตลอดจนสิทธิ์ในการใช้งาน สิทธิ์ย่อยในการใช้งานของเราโดยอยู่ในดุลยพินิจของเราแต่เพียงผู้เดียวและเพื่อวัตถุประสงค์ใดก็ได้ โดยปราศจากข้อผูกมัดกับลูกค้า
    4. รายชื่อลูกค้า  Dropbox อาจรวมชื่อของลูกค้าไว้ในรายชื่อลูกค้าของ Dropbox ในเว็บไซต์ Dropbox หรือในสื่อส่งเสริมการขาย
  6. ค่าธรรมเนียมและการชำระเงิน
    1. ค่าธรรมเนียม  ลูกค้าจะต้องชำระเงินและให้สิทธิ์ Dropbox หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้าเพื่อเรียกเก็บค่าใช้จ่ายโดยใช้วิธีการชำระเงินที่ลูกค้าเลือกไว้สำหรับค่าธรรมเนียมทั้งหมดที่สามารถนำมาใช้ได้ ค่าธรรมเนียมจะไม่สามารถขอคืนได้ เว้นแต่ว่ากฎหมายจะกำหนดไว้ ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบในการให้ข้อมูลการจัดเก็บค่าบริการและการติดต่อที่ครบถ้วนและถูกต้องแก่ Dropbox หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้า Dropbox อาจระงับหรือยุติบริการ หากค่าธรรมเนียมดังกล่าวเกินกำหนดชำระ
    2. การต่ออายุอัตโนมัติและการทดลองใช้งาน  หากบัญชีลูกค้าได้รับการตั้งค่าให้ต่ออายุโดยอัตโนมัติ หรืออยู่ในระยะเวลาการทดลองใช้งาน Dropbox (หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้า) อาจเรียกเก็บค่าใช้จ่ายโดยอัตโนมัติเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการทดลองใช้งาน หรือเมื่อมีการต่ออายุ เว้นแต่ว่าลูกค้าจะแจ้ง Dropbox (หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้าในกรณีที่สามารถนำมาใช้ได้) ว่าลูกค้าต้องการยกเลิกหรือปิดใช้งานการต่ออายุอัตโนมัติ Dropbox อาจแก้ไขอัตราค่าบริการโดยส่งการแจ้งมายังลูกค้าล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนถึงวันที่เก็บค่าใช้จ่ายครั้งถัดไป
    3. ภาษี  ลูกค้าต้องรับผิดชอบด้านภาษีทั้งหมด Dropbox หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้าจะเรียกเก็บภาษีเมื่อถูกกำหนดให้ดำเนินการดังกล่าว หากกฎหมายกำหนดให้ลูกค้าต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายใดๆ ลูกค้าต้องส่งหนังสือรับรองการหัก ณ ที่จ่ายหรือเอกสารที่ถูกต้องอื่นๆ มายัง Dropbox หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้า
    4. ใบสั่งซื้อ  หากลูกค้าต้องการใช้ใบสั่งซื้อหรือเลขที่ใบสั่งซื้อ ลูกค้า (i) ต้องแจ้งเลขที่ใบสั่งซื้อในขณะที่ทำการซื้อ และ (ii) ตกลงว่า ข้อกำหนดและเงื่อนไขใดๆ ในใบสั่งซื้อของลูกค้าจะไม่นำมาใช้กับข้อตกลงนี้และจะเป็นโมฆะ หากลูกค้าซื้อผ่านตัวแทนจำหน่าย ข้อกำหนดและเงื่อนไขใดๆ จากตัวแทนจำหน่ายของลูกค้าหรือในใบสั่งซื้อระหว่างคุณและตัวแทนจำหน่าย ซึ่งขัดแย้งกับข้อตกลงของ Dropbox Business ให้ถือเป็นโมฆะ
  7. ระยะเวลาและการเลิกสัญญา
    1. ระยะเวลา  ข้อตกลงนี้จะยังคงมีผลบังคับใช้จนกว่าการสมัครสมาชิกของลูกค้าที่มีต่อบริการนี้จะหมดอายุหรือเลิกสัญญา หรือจนกว่าข้อตกลงนี้จะถูกเลิกสัญญา
    2. การเลิกสัญญาเนื่องจากการฝ่าฝืน  Dropbox หรือลูกค้าสามารถบอกเลิกสัญญาของข้อตกลงนี้ได้ หาก: (i) อีกฝ่ายหนึ่งฝ่าฝืนข้อตกลงนี้อย่างมีนัยสำคัญหรือไม่สามารถแก้ไขการฝ่าฝืนดังกล่าวได้ภายใน 30 วันหลังจากได้รับการแจ้งอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร หรือ (ii) อีกฝ่ายหนึ่งสิ้นสุดการดำเนินธุรกิจหรือเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีล้มละลายและการพิจารณาคดีดังกล่าวไม่มีการยกฟ้องภายใน 90 วัน
    3. ผลของการเลิกสัญญา  ในกรณีที่ข้อตกลงนี้มีการเลิกสัญญา: (i) สิทธิ์ที่ Dropbox มอบให้แก่ลูกค้าจะสิ้นสุดลงทันที (เว้นแต่จะมีการกำหนดไว้ในส่วนนี้) (ii) Dropbox อาจให้สิทธิ์แก่ลูกค้าในการเข้าถึงบัญชีผู้ใช้ของตนในอัตรา ณ เวลานั้นเพื่อให้ลูกค้าสามารถนำข้อมูลที่จัดเก็บไว้ของตนออกมา และ (iii) หลังจากระยะเวลาที่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ Dropbox อาจลบข้อมูลที่จัดเก็บไว้ซึ่งเกี่ยวข้องกับบัญชีของลูกค้า ส่วนต่อไปนี้จะยังคงมีผลต่อไปแม้ว่าข้อตกลงนี้จะหมดอายุหรือมีการเลิกสัญญา: 1(e) คำขอของบุคคลที่สาม, 5 (สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา), 6 (ค่าธรรมเนียมและการชำระเงิน), 7(c) (ผลของการเลิกสัญญา), 8 (ค่าสินไหมทดแทน), 9 (การปฏิเสธความรับผิด), 10 (การจำกัดความรับผิดชอบ), 11 (ข้อพิพาท) และ 12 (เบ็ดเตล็ด)
  8. ค่าสินไหมทดแทน
    1. โดยลูกค้า  ลูกค้าจะจ่ายค่าสินไหมทดแทน คุ้มครอง และชดใช้ค่าเสียหายแก่ Dropbox จากการรับผิด ความเสียหาย และค่าใช้จ่ายใดๆ (ซึ่งรวมถึงการชำระหนี้และค่าใช้จ่ายของทนายความตามความเหมาะสม) ที่เกิดจากการเรียกร้องใดๆ ของบุคคลที่สามที่มีต่อ Dropbox และบริษัทในเครืออันเกี่ยวเนื่องมาจาก: (i) ข้อมูลของลูกค้า (ii) การใช้บริการนี้ของลูกค้าโดยฝ่าฝืนข้อตกลงนี้ หรือ (iii) การใช้บริการนี้ของผู้ใช้โดยฝ่าฝืนข้อตกลงนี้
    2. โดย Dropbox  Dropbox จะจ่ายค่าสินไหมทดแทน คุ้มครอง และชดใช้ค่าเสียหายแก่ลูกค้าจากการรับผิด ความเสียหาย และค่าใช้จ่ายใดๆ (ซึ่งรวมถึงการชำระหนี้และค่าใช้จ่ายของทนายความตามความเหมาะสม) ที่เกิดจากการเรียกร้องของบุคคลที่สามต่อลูกค้าภายใต้ข้อกล่าวหาว่าเทคโนโลยีของ Dropbox ที่ใช้เพื่อจัดหาบริการแก่ลูกค้ามีการฝ่าฝืนหรือทำให้มีการใช้ลิขสิทธิ์ ความลับทางการค้า สิทธิบัตรของสหรัฐอเมริกา หรือสิทธิ์ในเครื่องหมายการค้าของบุคคลที่สามในทางที่ผิด อย่างไรก็ดี ไม่ว่าในกรณีใดๆ ก็ตาม Dropbox จะไม่มีสัญญาผูกมัดหรือต้องรับผิดภายใต้ส่วนนี้อันเกิดจาก: (i) การใช้บริการภายใต้รูปแบบที่มีการดัดแปลงหรือใช้ร่วมกับสาระสำคัญใดๆ ที่ไม่ได้จัดหาให้โดย Dropbox และ (ii) เนื้อหา ข้อมูล หรือข้อมูลดิบที่จัดหาโดยลูกค้า ผู้ใช้ หรือบุคคลที่สาม
    3. การฝ่าฝืนที่อาจเกิดขึ้น  หาก Dropbox เชื่อว่าบริการนี้ฝ่าฝืนหรืออาจถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลที่สามแล้ว Dropbox อาจ: (i) ดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิ์สำหรับลูกค้าโดยใช้ค่าใช้จ่ายของ Dropbox เองเพื่อให้สามารถใช้บริการนี้ได้ต่อไป (ii) จัดหาบริการทดแทนที่มีการใช้งานซึ่งเทียบเท่าได้โดยไม่มีการฝ่าฝืน (iii) แก้ไขบริการเพื่อมิให้มีการฝ่าฝืนใดๆ อีกต่อไป หาก Dropbox ไม่เชื่อว่าทางเลือกใดๆ ที่ระบุไว้ในส่วนนี้สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ Dropbox อาจระงับหรือบอกเลิกสัญญาการใช้บริการที่มีผลกระทบนั้นของลูกค้า (โดยมีการคืนเงินค่าบริการที่ได้ชำระมาแล้วให้ตามสัดส่วน)
    4. ทั่วไป  ฝ่ายที่เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจะต้องแจ้งให้อีกฝ่ายทราบโดยทันทีถึงข้อเรียกร้องและให้ความร่วมมือกับอีกฝ่ายหนึ่งในการแก้ต่างข้อเรียกร้องดังกล่าว ฝ่ายที่จ่ายค่าสินไหมทดแทนมีสิทธิ์และการควบคุมอย่างเต็มที่ในการแก้ต่างดังกล่าว เว้นแต่ว่า: (i) การชำระหนี้ใดๆ ที่กำหนดให้ฝ่ายที่เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนต้องยอมรับในความรับผิดนั้นจำเป็นต้องมีการยินยอมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า โดยจะไม่มีการระงับหรือล่าช้าอย่างไม่สมเหตุสมผล และ (ii) อีกฝ่ายหนึ่งอาจร่วมในการแก้ต่างนั้นโดยใช้ที่ปรึกษาของตนเองและออกค่าใช้จ่ายเอง ค่าสินไหมทดแทนข้างต้นคือวิธีเยียวยาเพียงประการเดียวของ Dropbox และลูกค้าภายใต้ข้อตกลงนี้สำหรับการละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลที่สามโดยอีกฝ่ายหนึ่ง
  9. การปฏิเสธการรับผิด  บริการนี้นำเสนอ "ตามที่เป็น" ทั้งนี้ ภายใต้ขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต เว้นแต่จะระบุไว้โดยชัดแจ้งในข้อตกลงนี้ ลูกค้า และ Dropbox หรือบริษัทในเครือ ตลอดจนซัพพลายเออร์และผู้จัดจำหน่ายจะไม่ให้การรับประกันในลักษณะใดๆ ไม่ว่าจะโดยชัดแจ้งหรือโดยนัย การรับประกันตามกฎหมายหรือลักษณะอื่นใด รวมถึงการรับประกันความความสามารถในเชิงพาณิชย์และความเหมาะสมในการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง หรือการไม่ละเมิดสิทธิ์ ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบในการบำรุงรักษาและสำรองข้อมูลที่จัดเก็บไว้
  10. การจำกัดความรับผิด
    1. การจำกัดความรับผิดทางอ้อม  ภายใต้ขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายกำหนด ลูกค้าและ Dropbox ตลอดจนบริษัทในเครือ ซัพพลายเออร์ และผู้จัดจำหน่ายจะไม่รับผิดภายใต้ข้อตกลงนี้สำหรับ (I) ความเสียหายทางอ้อม ความเสียหายจำเพาะ ความเสียหายอันเนื่องมาจากการผิดสัญญา ความเสียหายที่เป็นผลสืบเนื่อง ค่าเสียหายที่เป็นการตักเตือนหรือเชิงลงโทษ หรือ (II) การสูญเสียการใช้ประโยชน์ ข้อมูล ธุรกิจ รายได้ หรือผลกำไร (ในแต่ละกรณีไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม) แม้ว่าฝ่ายดังกล่าวจะรับทราบหรือควรได้รับทราบถึงความเป็นไปได้ในการเกิดความเสียหายนั้นแล้วก็ตาม หรือแม้ว่าการเยียวยานั้นจะไม่บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ที่สำคัญก็ตาม เว้นแต่ว่าจะมีข้อผูกมัดในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของ Dropbox หรือลูกค้า
    2. การจำกัดจำนวนเงินในการรับผิดชอบ  ภายใต้ขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายกำหนด การรับผิดโดยรวมของ Dropbox ภายใต้ข้อตกลงนี้จะต้องไม่เกิน 100,000 ดอลลาร์หรือน้อยกว่า หรือไม่เกินจำนวนเงินที่ลูกค้าชำระเป็นค่าบริการในระหว่างสิบสองเดือนก่อนหน้าที่จะเกิดการเรียกร้องให้มีการรับผิดดังกล่าว
  11. ข้อพิพาท
    1. การแก้ไขข้อพิพาทอย่างไม่เป็นทางการ  Dropbox ต้องการแก้ไขข้อกังวลของคุณโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการฟ้องร้องคดีอย่างเป็นทางการ ก่อนที่จะยื่นข้อเรียกร้อง คู่สัญญาแต่ละฝ่ายตกลงที่จะพยายามแก้ไขข้อพิพาทโดยติดต่อคู่สัญญาอีกฝ่ายผ่านกระบวนการส่งหนังสือแจ้งตามที่ระบุไว้ในส่วน 12(e) หากข้อพิพาทดังกล่าวไม่สามารถแก้ไขได้ภายใน 30 วันหลังจากการแจ้ง ลูกค้าหรือ Dropbox อาจนำข้อพิพาทนั้นเข้าสู่การพิจารณาคดีอย่างเป็นทางการต่อไป
    2. การเห็นชอบร่วมกันเพื่อให้ตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการ  ลูกค้าและ Dropbox เห็นชอบร่วมกันที่จะให้แก้ไขข้อเรียกร้องใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงหรือบริการนี้ผ่านการตัดสินชี้ขาดขั้นสุดท้ายที่มีผลผูกพัน เว้นแต่จะกำหนดไว้ด้านล่างนี้ สมาคมอนุญาโตตุลาการของสหรัฐอเมริกา (American Arbitration Association หรือ AAA) จะทำหน้าที่บริหารจัดการการตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการภายใต้ข้อบังคับอนุญาโตตุลาการการค้า (Commercial Arbitration Rules) การอนุญาโตตุลาการจะดำเนินการในซานฟรานซิสโก (CA) หรือในสถานที่อื่นที่คู่สัญญาตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษร
    3. ข้อยกเว้นของการเห็นชอบร่วมกันเพื่อให้ตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการ  คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจยื่นให้มีการพิจารณาคดีในศาลรัฐบาลกลางหรือศาลมลรัฐของเขตซานฟรานซิสโก มลรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้หยุดการใช้บริการที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือการใช้บริการในทางที่ผิด หรือการละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาโดยไม่ได้ทำขั้นตอนการแจ้งข้อพิพาทอย่างไม่เป็นทางการในเบื้องต้นตามที่ระบุไว้ข้างต้น ทั้งลูกค้าและ Dropbox ยอมรับในสถานที่พิจารณาคดีและอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีเหนือบุคคลให้เกิดขึ้นในศาลดังกล่าว
    4. ไม่มีการดำเนินคดีแบบกลุ่ม  ลูกค้าสามารถแก้ไขข้อพิพาทกับ Dropbox ในลักษณะแบบรายบุคคล และจะไม่ยื่นข้อเรียกร้องเพื่อดำเนินการคดีแบบกลุ่ม แบบรวม หรือแบบโดยตัวแทน ทั้งนี้ ไม่อนุญาตให้มีการอนุญาโตตุลาการแบบกลุ่ม การดำเนินคดีแบบกลุ่ม การดำเนินคดีโดยอัยการในภาคเอกชน และการรวมเข้ากับการอนุญาโตตุลาการอื่นๆ
  12. เบ็ดเตล็ด
    1. การแก้ไขข้อกำหนด  Dropbox อาจแก้ไขข้อตกลงนี้เป็นครั้งคราว และจะมีการประกาศเนื้อหาของข้อตกลงฉบับล่าสุดไว้บนเว็บไซต์ของ Dropbox Business เสมอ หากการแก้ไขดังกล่าวนั้นเป็นการแก้ไขในส่วนสาระสำคัญ Dropbox จะแจ้งให้ลูกค้าทราบ (เช่น โดยการส่งอีเมลไปยังที่อยู่อีเมลที่เกี่ยวข้องกับบัญชีที่มีผลนั้น) ทั้งนี้โดยอยู่ภายใต้ดุลยพินิจของ Dropbox แต่เพียงผู้เดียว การแก้ไขอื่นๆ อาจประกาศในบล็อกของ Dropbox หรือหน้าแสดงข้อกำหนด และลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบในการตรวจสอบข้อความประกาศนั้นอย่างสม่ำเสมอ การเข้าถึงหรือใช้บริการของเราต่อไป หลังจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นมีผลบังคับใช้แล้ว เป็นการแสดงว่าลูกค้ายอมรับที่จะผูกพันตามข้อตกลงที่ได้รับการแก้ไขแล้ว หากลูกค้าไม่ยอมรับในเงื่อนไขของข้อตกลงที่มีการแก้ไขนี้ ลูกค้าสามารถบอกเลิกบริการนี้ได้ภายใน 30 วันหลังจากได้รับหนังสือแจ้งการเปลี่ยนแปลง
    2. ข้อตกลงที่สมบูรณ์  ข้อตกลงนี้ ซึ่งรวมถึงใบแจ้งหนี้ของลูกค้าและแบบฟอร์มสั่งซื้อ กับ Dropbox (หากมี) จะประกอบกันเป็นข้อตกลงที่สมบูรณ์ระหว่างลูกค้าและ Dropbox โดยเกี่ยวข้องกับสาระสำคัญของข้อตกลงนี้ และจะใช้แทนที่และมีผลบังคับใช้เหนือข้อสัญญาหรือข้อตกลงร่วมกันที่มีขึ้นก่อนหน้านี้หรือในเวลาเดียวกันนี้ ไม่ว่าจะเป็นลายลักษณ์อักษรหรือทางวาจา อันเกี่ยวข้องกับสาระสำคัญของข้อตกลงนี้ หากมีข้อขัดแย้งใดๆ ระหว่างเอกสารต่างๆ ที่ประกอบกันเป็นข้อตกลงนี้ เอกสารดังกล่าวจะมีผลควบคุมโดยเรียงตามลำดับดังต่อไปนี้: ใบแจ้งหนี้ Dropbox, แบบฟอร์มสั่งซื้อ Dropbox, ข้อตกลง
    3. กฎหมายที่ควบคุม  ข้กตกลงนี้จะถูกควบคุมโดยกฎหมายของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย เว้นแต่จะมีข้อขัดแย้งกับหลักของกฎหมาย
    4. การเป็นโมฆะเป็นบางส่วน  ข้อกำหนดที่ไม่สามารถบังคับใช้ได้จะได้รับการแก้ไขเพื่อแสดงถึงเจตนาของคู่สัญญา และในเฉพาะขอบเขตที่จำเป็นเพื่อทำให้ข้อกำหนดดังกล่าวนั้นสามารถบังคับใช้ได้ ส่วนข้อกำหนดอื่นๆ ที่เหลือของข้อตกลงนี้จะยังคงมีผลบังคับใช้โดยสมบูรณ์ต่อไป
    5. หนังสือแจ้ง  หนังสือแจ้งต้องส่งทางบริการจัดส่งชั้นหนึ่ง ทางอากาศ หรือแบบข้ามคืน และถือว่าได้ส่งมอบให้แล้วเมื่อได้รับ หนังสือแจ้งถึงลูกค้าอาจส่งไปยังอีเมลแอดเดรสของบัญชีที่ใช้งาน และถือว่าได้ส่งมอบให้แล้วเมื่อได้รับ หนังสือแจ้งถึง Dropbox ต้องส่งไปยัง Dropbox, Inc., P.O. Box 77767, San Francisco, CA 94107 พร้อมสำเนาถึงแผนกกฎหมาย
    6. การสละสิทธิ์  การสละสิทธิ์ในเหตุผิดข้อสัญญาใดๆ จะไม่เป็นการสละสิทธิ์ในเหตุผิดข้อสัญญาใดๆ ที่เกิดขึ้นตามมาด้วย
    7. การโอนสิทธิ์  ลูกค้าไม่สามารถโอนสิทธิ์หรือถ่ายโอนส่วนใดๆ ของข้อตกลงนี้ หรือสิทธิ์หรือข้อผูกพันใดๆ ภายใต้ข้อตกลงนี้ โดยปราศจากการยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Dropbox Dropbox ไม่สามารถโอนสิทธิ์ในข้อตกลงนี้โดยไม่ได้แจ้งให้ลูกค้าทราบ เว้นเสียแต่ว่า Dropbox จะโอนสิทธิ์ในข้อตกลงนี้ หรือสิทธิ์หรือข้อผูกพันภายใต้ข้อตกลงนี้ไปยังบริษัทในเครือหรือในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ การเข้าซื้อกิจการ การปรับโครงสร้างที่เกี่ยวข้อง หรือการขายสินทรัพย์ทั้งหมดหรือส่วนสำคัญของสินทรัพย์ทั้งหมดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ ความพยายามอื่นๆ ในการถ่ายโอนหรือโอนสิทธิ์จะเป็นโมฆะ
    8. ไม่มีการเป็นตัวแทน  Dropbox และลูกค้าไม่ใช่หุ้นส่วนตามกฎหมายหรือตัวแทนของกันและกัน แต่เป็นเพียงผู้ทำสัญญาที่เป็นอิสระ
    9. เหตุสุดวิสัย  Dropbox และลูกค้าจะไม่ต้องรับผิดต่อการดำเนินการที่ต่ำกว่ามาตรฐานกำหนด อันเนื่องมาจากเงื่อนไขที่เกินขอบเขตการควบคุมที่สมเหตุสมผลของตน (เช่น ภัยพิบัติตามธรรมชาติ สงครามหรือการก่อการร้าย เหตุจลาจล สภาพแรงงาน การดำเนินการขอภาครัฐ และการรบกวนสัญญาณอินเทอร์เน็ต) เว้นเสียแต่จะมีข้อผูกพันในด้านการชำระเงิน
    10. ไม่มีผู้รับผลประโยชน์บุคคลที่สาม  ข้อตกลงนี้จะไม่มีผู้รับผลประโยชน์บุคคลที่สาม ทั้งนี้ โดยปราศจากข้อจำกัดของส่วนนี้ ผู้ใช้ของลูกค้าจะไม่ใช่ผู้รับผลประโยชน์บุคคลที่สามสำหรับสิทธิ์ของลูกค้าภายใต้ข้อตกลงนี้
    11. การจำกัดการส่งออก  การส่งออกหรือส่งออกซ้ำข้อมูลลูกค้าผ่านบริการนี้อาจได้รับการควบคุมภายใต้ระเบียบข้อบังคับของฝ่ายบริหารการส่งออกสหรัฐอเมริกา (United States Export Administration Regulations) หรือข้อจำกัดในการส่งออกที่บังคับใช้หรือคำสั่งห้ามค้าขายอื่นๆ บริการนี้ไม่สามารถใช้ได้ในประเทศคิวบา อิหร่าน เกาหลีเหนือ ซูดาน หรือซีเรีย หรือประเทศอื่นๆ ที่มีคำสั่งห้ามค้าขายโดยสหรัฐอเมริกา และลูกค้าต้องไม่ใช้บริการโดยฝ่าฝืนข้อจำกัดการส่งออกหรือคำสั่งห้ามค้าขายโดยสหรัฐอเมริกา หรือเขตอำนาจศาลที่มีผลบังคับใช้อื่นๆ นอกจากนั้น ลูกค้าต้องแน่ใจว่าบริการนี้ไม่ได้มีให้แก่บุคคลที่มีรายชื่ออยู่ในตารางรายชื่อที่ได้รับการปฏิเสธ (Table of Denial Orders) ตลอดจนรายชื่อหน่วยงาน (Entity List) หรือรายชื่อพลเมืองที่ระบุชื่อเป็นกรณีพิเศษ (Specially Designated Nationals) ของสหรัฐอเมริกา

วาระที่ 1

ประกาศ Commission Decision C(2010)593

ข้อสัญญามาตรฐาน (ผู้ประมวลผล)

วัตถุประสงค์ของบทที่ 26(2) แห่งข้อกำหนด 95/46/EC ว่าด้วยการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ประมวลผลที่อยู่ในประเทศที่สามซึ่งไม่สามารถให้การรับรองระดับการปกป้องข้อมูลที่พอเพียง

ชื่อองค์กรที่ส่งออกข้อมูล: ลูกค้าที่เป็นคู่สัญญาในข้อตกลง Dropbox Business กับ Dropbox International Unlimited Company
( ผู้ส่งออกข้อมูล)

และ

ชื่อองค์กรที่นำเข้าข้อมูล: Dropbox, Inc.
ที่อยู่: 333 Brannan Street, San Francisco, CA 94107 USA
(ผู้นำเข้า ข้อมูล)

เรียกแต่ละฝ่ายว่า "คู่สัญญา" และเรียกรวมว่า "คู่สัญญา"

ได้ยอมรับข้อสัญญามาตรฐาน (ข้อสัญญา) ต่อไปนี้ เพื่ออ้างอิงถึงมาตรการปกป้องที่พอเพียงในด้านการปกป้องความเป็นส่วนตัวและสิทธิขั้นพื้นฐาน รวมถึงเสรีภาพส่วนบุคคลในการถ่ายโอนข้อมูลจากผู้ส่งออกข้อมูลไปยังผู้นำเข้าข้อมูลของข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุใน ภาคผนวกที่ 1

ข้อสัญญาที่ 1

คำจำกัดความ

สำหรับวัตถุประสงค์ของข้อสัญญา:

  1. "ข้อมูลส่วนตัว" "ข้อมูลประเภทพิเศษ" "ประมวลผล/การประมวลผล" "ผู้ควบคุม" "ผู้ประมวลผล" "เจ้าของข้อมูล" และ "หน่วยงานกำกับดูแล" มีความหมายเหมือนในข้อกำหนด 95/46/EC ของรัฐสภายุโรปและกรรมาธิการ ณ วันที่ 24 ตุลาคม 1995 เรื่องการปกป้องบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและการเคลื่อนย้ายอย่างอิสระของข้อมูลดังกล่าว1
  2. "ผู้ส่งออกข้อมูล" หมายถึงผู้ควบคุมที่ถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล
  3. "ผู้นำเข้าข้อมูล" หมายถึงผู้ประมวลผลที่ยินยอมที่จะรับข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ส่งออกข้อมูลที่มุ่งหวังจะประมวลผลในนามบุคคลนั้นหลังการถ่ายโอนข้อมูลที่เป็นไปตามคำสั่งและข้อตกลงในข้อสัญญา โดยบุคคลนั้นไม่อยู่ภายใต้บังคับของระบบในประเทศที่สามซึ่งให้การรับรองว่ามีการปกป้องอย่างพอเพียงภายใต้ความหมายตามบทที่ 25(1) ของข้อกำหนด 95/46/EC
  4. "ผู้ประมวลผลย่อย" หมายถึงผู้ประมวลผลใดๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้นำเข้าข้อมูลหรือผู้ประมวลผลย่อยอื่นๆ ของผู้นำเข้าข้อมูล ซึ่งยินยอมที่จะรับข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้นำเข้าข้อมูลหรือจากผู้ประมวลผลย่อยรายอื่นๆ ของผู้นำเข้าข้อมูล ซึ่งมุ่งหวังที่จะประมวลผลกิจกรรมเพื่อดำเนินการในนามของผู้ส่งออกข้อมูลหลังการถ่ายโอนข้อมูลที่เป็นไปตามคำสั่งและข้อตกลงในข้อสัญญาและข้อตกลงในสัญญาย่อยที่เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร
  5. ""กฎหมายการปกป้องข้อมูลที่เกี่ยวข้อง" หมายถึงตัวบทกฎหมายที่ปกป้องสิทธิพื้นฐานและเสรีภาพส่วนบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิความเป็นส่วนตัวในเรื่องการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลในรัฐสมาชิกที่ผู้ส่งออกข้อมูลตั้งอยู่
  6. "มาตรการการรักษาความปลอดภัยเชิงเทคนิคและเชิงองค์กร" หมายถึงมาตรการต่างๆ ที่มีเป้าหมายในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลให้พ้นจากความเสียหายโดยไม่ตั้งใจหรือเกิดจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือเกิดความสูญเสียโดยไม่ตั้งใจ การแก้ไข การเปิดเผยหรือเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการประมวลผลเกี่ยวข้องการการส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย และปลอดจากรูปแบบการประมวลผลที่ผิดกฎหมายอื่นๆ

ข้อสัญญาที่ 2

รายละเอียดของการถ่ายโอน

รายละเอียดของการถ่ายโอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทพิเศษที่เกี่ยวข้องมีระบุอยู่ในภาคผนวกที่ 1 ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อสัญญา

ข้อสัญญาที่ 3

ข้อสัญญาเกี่ยวกับบุคคลที่สามที่ได้รับผลประโยชน์  

  1. เจ้าของข้อมูลสามารถบังคับใช้กฎหมายกับผู้ส่งออกข้อมูลในข้อสัญญานี้ ข้อสัญญา 4(ข) ถึง (ฌ) ข้อสัญญา 5(ก) ถึง (จ) และ (ช) ถึง (ญ) ข้อสัญญา 6(1) และ (2) ข้อสัญญา 7 ข้อสัญญา 8(2) และข้อสัญญา 9 ถึง 12 ในฐานะบุคคลที่สามที่ได้รับผลประโยชน์
  2. เจ้าของข้อมูลสามารถบังคับใช้กฎหมายกับผู้นำเข้าข้อมูลในข้อสัญญานี้ ข้อสัญญา 5(ก) ถึง (จ) และ (ช) ข้อสัญญา 6 ข้อสัญญา 7 ข้อสัญญา 8(2) และข้อสัญญา 9 ถึง 12 ในกรณีที่ผู้ส่งออกข้อมูลหายไปตามข้อเท็จจริงหรือยกเลิกการคงสภาพตามกฎหมาย ยกเว้นในกรณีที่นิติบุคคลที่รับช่วงต่อได้รับภาระผูกพันทางกฎหมายทั้งหมดต่อจากผู้ส่งออกข้อมูลตามสัญญาหรือตามการดำเนินการทางกฎหมาย อันเป็นผลส่งให้ต้องสืบทอดสิทธิและภาระผูกพันของผู้ส่งออกข้อมูล ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นเจ้าของข้อมูลจะสามารถบังคับใช้กฎหมายกับนิติบุคคลดังกล่าวได้
  3. เจ้าของข้อมูลสามารถบังคับใช้กฎหมายกับผู้ประมวลผลย่อยในข้อสัญญานี้ ข้อสัญญา 5(ก) ถึง (จ) และ (ช) ข้อสัญญา 6 ข้อสัญญา 7 ข้อสัญญา 8(2) และข้อสัญญา 9 ถึง 12 ในกรณีที่ทั้งผู้ส่งออกข้อมูลและผู้นำเข้าข้อมูลหายไปตามข้อเท็จจริงหรือยกเลิกการคงสภาพตามกฎหมาย หรือกลายสถานะเป็นผู้ล้มละลาย ยกเว้นในกรณีที่นิติบุคคลที่รับช่วงต่อได้รับภาระผูกพันทางกฎหมายทั้งหมดต่อจากผู้ส่งออกข้อมูลตามสัญญาหรือตามการดำเนินการทางกฎหมาย อันเป็นผลส่งให้ต้องสืบทอดสิทธิและภาระผูกพันของผู้ส่งออกข้อมูล ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นเจ้าของข้อมูลจะสามารถบังคับใช้กฎหมายกับนิติบุคคลดังกล่าวได้ ความรับผิดต่อบุคคลที่สามของผู้ประมวลผลย่อยจะจำกัดเพียงการดำเนินการประมวลผลในส่วนของตนภายใต้ข้อสัญญาเท่านั้น
  4. คู่สัญญาจะไม่คัดค้านในกรณีที่เจ้าของข้อมูลต้องการให้องค์กรหรือหน่วยงานเป็นตัวแทน หากเจ้าของข้อมูลแสดงเจตนาอย่างชัดเจนและกฎหมายของประเทศนั้นอนุญาตให้ทำได้

ข้อสัญญาที่ 4

ภาระผูกพันของผู้ส่งออกข้อมูล

ผู้ส่งออกข้อมูลให้ความยินยอมและรับรองดังต่อไปนี้

  1. การประมวลผล ซึ่งรวมถึงการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลได้ดำเนินการมาและจะดำเนินการต่อไปตามข้อบังคับที่เกี่ยวข้องของกฎหมายการปกป้องข้อมูล (และหากเกี่ยวข้องจะต้องแจ้งไปยังหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องในรัฐของสมาชิกที่ผู้ส่งออกข้อมูลตั้งอยู่) และไม่ละเมิดข้อบังคับที่เกี่ยวข้องของรัฐนั้น
  2. ได้ให้คำแนะนำและจะให้คำแนะนำผู้นำเข้าข้อมูลตลอดช่วงเวลาการให้บริการด้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในการที่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ถ่ายโอนในนามของผู้ส่งออกข้อมูลเท่านั้น และจะปฏิบัติตามกฎหมายการปกป้องข้อมูลและข้อสัญญาที่เกี่ยวข้อง
  3. ผู้นำเข้าข้อมูลจะให้การรับรองที่เพียงพอเกี่ยวกับมาตรการการรักษาความปลอดภัยเชิงเทคนิคและเชิงองค์กร ดังที่ระบุไว้ใน ภาคผนวกที่ 2 ของสัญญาฉบับนี้
  4. หลังจากประเมินข้อกำหนดของกฎหมายการปกป้องข้อมูลที่เกี่ยวข้องแล้ว มาตรการรักษาความปลอดภัยต้องเหมาะสมสำหรับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลให้พ้นจากความเสียหายโดยไม่ตั้งใจหรือเกิดจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือเกิดความสูญเสียโดยไม่ตั้งใจ การแก้ไข การเปิดเผยหรือเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการประมวลผลเกี่ยวข้องการการส่งสัญญาณข้อมูลผ่านเครือข่าย และปลอดจากรูปแบบการประมวลผลที่ผิดกฎหมายอื่นๆ มาตรการดังกล่าวต้องประกันการตอบรับความเสี่ยงจากการประมวลผลและลักษณะธรรมชาติของข้อมูลด้วยระดับการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมโดยคำนึงถึงความทันสมัยและต้นทุนในการนำไปปฏิบัติ
  5. จะรับรองการปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัย
  6. หากการถ่ายโอนเกี่ยวข้องกับข้อมูลประเภทพิเศษ เจ้าของข้อมูลต้องได้รับแจ้งหรือจะได้รับแจ้งก่อน หรือโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถหลังจากที่อาจมีการส่งสัญญาณการถ่ายโอนข้อมูลของตนไปยังประเทศที่สามซึ่งไม่มีมาตรการปกป้องที่เพียงพอตามที่บัญญัติในข้อกำหนด 95/46/EC
  7. จะส่งต่อการแจ้งใดๆ ที่ได้รับจากผู้นำเข้าข้อมูลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลย่อยตามข้อสัญญา 5(ข) และข้อสัญญา 8(3) ไปให้หน่วยงานที่กำกับดูแลการปกป้องข้อมูล หากผู้ส่งออกข้อมูลตัดสินใจที่จะดำเนินการถ่ายโอนข้อมูลต่อไปหรือยกเลิกการระงับ
  8. จะจัดหาสำเนาข้อสัญญาเมื่อเจ้าของข้อมูลร้องขอ ยกเว้นภาคผนวกที่ 2 และคำอธิบายสรุปของมาตรการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งสำเนาของสัญญาบริการประมวลผลย่อยใดๆ ซึ่งจะต้องเป็นไปตามข้อสัญญา ยกเว้นในกรณีที่ข้อสัญญาหรือสัญญานั้นมีข้อมูลทางการค้าอยู่ หากเป็นเช่นนั้นอาจลบข้อมูลทางการค้าดังกล่าวออกได้
  9. ในกรณีที่มีการประมวลผลย่อย กิจกรรมการประมวลผลโดยผู้ประมวลผลย่อยจะต้องดำเนินการตามข้อสัญญาที่ 11 โดยให้ระดับการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิของเจ้าของข้อมูลในฐานะผู้นำเข้าข้อมูลภายใต้ข้อสัญญาในระดับเดียวกันเป็นอย่างน้อย และ
  10. จะรับรองการปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อสัญญา 4 (ก) ถึง (ฌ)

ข้อสัญญาที่ 5

ภาระผูกพันของผู้นำเข้าข้อมูล2

ผู้นำเข้าข้อมูลให้ความยินยอมและรับรองดังต่อไปนี้

  1. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจะทำในนามของผู้ส่งออกข้อมูลเท่านั้นและจะปฏิบัติตามคำสั่งและข้อสัญญา หากไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดนั้นไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ผู้นำเข้าข้อมูลยินยอมที่จะแจ้งให้ผู้ส่งออกข้อมูลทราบถึงการที่ไม่สามารถปฎิบัติตามข้อกำหนดภายในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งในกรณีดังกล่าวผู้ส่งออกข้อมูลมีสิทธิ์ที่จะระงับการถ่ายโอนข้อมูลและ/หรือยุติสัญญา
  2. ผู้นำเข้าข้อมูลไม่มีเหตุใดๆ ที่ทำให้เชื่อว่ากฎหมายที่เกี่ยวข้องสั่งห้ามไม่ให้ผู้นำเข้าข้อมูลดำเนินการตามคำสั่งที่ได้รับจากผู้ส่งออกข้อมูลและภาระผูกพันภายใต้สัญญา และหากเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านกฎหมายซึ่งมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดผลกระทบสำคัญที่ไม่พึงประสงค์เกี่ยวกับการประกันและภาระผูกพันตามข้อสัญญา ผู้นำเข้าข้อมูลจะต้องแจ้งให้ผู้ส่งออกข้อมูลทราบถึงการเปลี่ยนแปลงทันทีที่ตนทราบ ซึ่งในกรณีดังกล่าวผู้ส่งออกข้อมูลมีสิทธิ์ที่จะระงับการถ่ายโอนข้อมูลและ/หรือยุติสัญญา
  3. ได้นำมาตรการการรักษาความปลอดภัยเชิงเทคนิคและเชิงองค์กรที่ระบุในภาคผนวกที่ 2 มาใช้ก่อนประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ถ่ายโอน
  4. จะแจ้งให้ผู้ส่งออกข้อมูลทราบเกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้ในเวลาที่เหมาะสม
    1. คำขอที่เป็นข้อผูกมัดทางกฎหมายให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ยกเว้นในกรณีที่ถูกห้ามไว้ เช่น การสั่งห้ามภายใต้กฎหมายอาชญากรรมเพื่อรักษาความลับในการดำเนินคดีของหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย
    2. การเข้าถึงโดยไม่ตั้งใจหรือการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต และ
    3. คำขอใดๆ ที่ได้รับจากเจ้าของข้อมูลโดยตรงโดยไม่ตอบรับคำขอดังกล่าว ยกเว้นในกรณีที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการตามนั้น
  5. การจัดการตามที่ผู้ส่งออกข้อมูลสอบถามทั้งหมดในเวลาและวิธีที่เหมาะสม เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ภายใต้บังคับการถ่ายโอนและการปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการประมวลผลข้อมูลที่ถ่ายโอน
  6. เมื่อได้รับคำขอจากผู้ส่งออกข้อมูลให้ส่งสถานที่ทำการประมวลผลข้อมูลให้รับการตรวจสอบกิจกรรมการประมวลผลที่ครอบคลุมตามข้อสัญญา ซึ่งจะดำเนินการโดยผู้ส่งออกข้อมูลเองหรือคณะกรรมการตรวจสอบที่ประกอบด้วยสมาชิกอิสระซึ่งมีคุณสมบัติทางวิชาชีพที่กำหนดและมีข้อผูกมัดตามหน้าที่ซึ่งเป็นความลับ ซึ่งผู้ส่งออกข้อมูลเป็นผู้เลือก และหากเกี่ยวข้องจะต้องเป็นไปตามข้อตกลงกับหน่วยงานกำกับดูแล
  7. จะจัดหาสำเนาข้อสัญญาหรือสัญญาการประมวลผลย่อยใดๆ ที่มี เมื่อเจ้าของข้อมูลร้องขอ ยกเว้นในกรณีที่ข้อสัญญาหรือสัญญานั้นมีข้อมูลทางการค้าอยู่ หากเป็นเช่นนั้นอาจลบข้อมูลทางการค้าดังกล่าวออกได้ ทั้งนี้ยกเว้นภาคผนวกที่ 2 ซึ่งถูกแทนด้วยคำอธิบายโดยสรุปเกี่ยวกับมาตรการการรักษาความปลอดภัยในกรณีดังกล่าวที่เจ้าของข้อมูลไม่สามารถรับสำเนาจากผู้ส่งออกข้อมูล
  8. ในกรณีที่มีการประมวลผลย่อย จะต้องแจ้งผู้ส่งออกข้อมูลโดยต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า
  9. บริการประมวลผลของผู้ประมวลผลย่อยจะดำเนินการตามข้อสัญญาที่ 11
  10. จะส่งสำเนาข้อตกลงของผู้ประมวลผลย่อยใดๆ ที่สรุปอยู่ภายใต้ข้อสัญญาให้กับผู้ส่งออกข้อมูล

ข้อสัญญาที่ 6

ความรับผิด

  1. คู่สัญญายอมรับว่าเจ้าของข้อมูลใดก็ตามที่ได้รับความเสียหายอันเป็นผลจากการผิดสัญญาตามภาระผูกพันที่อ้างไว้ในข้อสัญญาที่ 3 หรือในข้อสัญญาที่ 11 โดยคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือผู้ประมวลผลย่อย เจ้าของข้อมูลนั้นมีสิทธิ์ที่จะได้รับการชดใช้จากผู้ส่งออกข้อมูลสำหรับความเสียหายที่ได้รับ
  2. หากเจ้าของข้อมูลไม่สามารถทวงสิทธิ์ในการชดใช้ตามย่อหน้าที่ 1 จากผู้ส่งออกข้อมูล เนื่องจากการผิดสัญญาตามภาระผูกพันดังที่อ้างถึงในข้อสัญญาที่ 3 หรือข้อสัญญาที่ 11 ของผู้นำเข้าข้อมูลหรือผู้ประมวลผลย่อย หรือเนื่องจากผู้ส่งออกข้อมูลหายไปตามข้อเท็จจริงหรือยกเลิกการคงสภาพตามกฎหมาย หรือกลายสถานะเป็นผู้ล้มละลาย ผู้นำเข้าข้อมูลยินยอมให้เจ้าของข้อมูลทวงสิทธิ์จากผู้นำเข้าข้อมูลเสมือนเป็นผู้ส่งออกข้อมูล ยกเว้นในกรณีที่นิติบุคคลที่รับช่วงต่อได้รับภาระผูกพันทางกฎหมายทั้งหมดต่อจากผู้ส่งออกข้อมูลตามสัญญาหรือตามการดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นเจ้าของข้อมูลจะสามารถบังคับใช้สิทธิ์ของตนกับนิติบุคคลดังกล่าวได้
    ผู้นำเข้าข้อมูลจะไม่ใช้การผิดสัญญาตามภาระผูกพันของผู้ประมวลผลย่อยเป็นข้ออ้างในการเลี่ยงความรับผิดของตนเอง
  3. หากเจ้าของข้อมูลไม่สามารถทวงสิทธิ์จากผู้ส่งออกหรือผู้นำเข้าข้อมูลตามย่อหน้าที่ 1 และ 2 เนื่องจากเป็นการผิดสัญญาตามภาระผูกพันดังที่อ้างถึงในข้อสัญญาที่ 3 หรือข้อสัญญาที่ 11 ของผู้ประมวลผลย่อย หรือเนื่องจากทั้งผู้ส่งออกข้อมูลและผู้นำเข้าข้อมูลหายไปตามข้อเท็จจริงหรือยกเลิกการคงสภาพตามกฎหมาย หรือกลายสถานะเป็นผู้ล้มละลาย หากเป็นเช่นนั้นผู้ประมวลผลย่อยยินยอมให้เจ้าของข้อมูลทวงสิทธิ์ที่เกี่ยวกับการดำเนินการประมวลผลข้อมูลของตนเองภายใต้ข้อสัญญา เสมือนเป็นผู้ส่งออกหรือผู้นำเข้าข้อมูล ยกเว้นในกรณีที่นิติบุคคลที่รับช่วงต่อได้รับภาระผูกพันทางกฎหมายทั้งหมดต่อจากผู้ส่งออกหรือผู้นำเข้าข้อมูลตามสัญญาหรือตามการดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นเจ้าของข้อมูลจะสามารถบังคับใช้สิทธิ์ของตนกับนิติบุคคลดังกล่าวได้ ความรับผิดของผู้ประมวลผลย่อยจะจำกัดเพียงการดำเนินการประมวลผลของตนเองภายใต้ข้อสัญญาเท่านั้น

ข้อสัญญาที่ 7

การไกล่เกลี่ยและเขตอำนาจศาล

  1. ผู้นำเข้าข้อมูลให้ความยินยอมในกรณีที่เจ้าของข้อมูลเพิกถอนสิทธิ์บุคคลที่สามที่เป็นผู้รับผลประโยชน์ของตน และ/หรือ การทวงสิทธิ์ให้ชดใช้ค่าเสียหายภายใต้ข้อสัญญา ผู้นำเข้าข้อมูลจะยอมรับการตัดสินใจต่อไปนี้ของเจ้าของข้อมูล
    1. การขอให้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยบุคคลอิสระหรือหน่วยงานกำกับดูแลเมื่อเกี่ยวข้อง
    2. การขอให้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในศาลของรัฐสมาชิกที่ผู้ส่งออกข้อมูลตั้งอยู่
  2. คู่สัญญาตกลงที่จะไม่มีอคติกับตัวเลือกในการใช้สิทธิสำคัญหรือสิทธิตามขั้นตอนที่เจ้าของข้อมูลจะใช้แก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นไปโดยสอดคล้องกับข้อบังคับของกฎหมายในประเทศหรือกฏหมายนานาชาติ

ข้อสัญญาที่ 8

การให้ความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแล

  1. ผู้ส่งออกข้อมูลยินยอมที่จะนำส่งสำเนาของสัญญาฉบับนี้ให้หน่วยงานกำกับดูแลเมื่อมีการร้องขอ หรือหากกฎหมายการปกป้องข้อมูลที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้
  2. คู่สัญญายอมรับว่าหน่วยงานกำกับดูแลมีสิทธิ์ที่จะดำเนินการตรวจสอบผู้นำเข้าข้อมูลและผู้ประมวลผลย่อยอื่นๆ ซึ่งมีขอบเขตหน้าที่และอยู่ภายใต้เงื่อนไขเดียวกันที่ใช้กับการตรวจสอบผู้ส่งออกข้อมูลภายใต้กฎหมายการปกป้องข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
  3. ผู้นำเข้าข้อมูลจะแจ้งให้ผู้ส่งออกข้อมูลทราบในเวลาที่เหมาะสมเกี่ยวกับข้อบังคับทางกฎหมายที่มีซึ่งเกี่ยวข้องตนหรือผู้ประมวลผลย่อย ที่จะป้องกันการดำเนินการตรวจสอบผู้นำเข้าข้อมูลหรือผู้ประมวลผลตามย่อหน้าที่ 2 ซึ่งในกรณีดังกล่ว ผู้ส่งออกข้อมูลมีสิทธิ์ที่จะใช้มาตรการตามที่เห็นควรในข้อสัญญาที่ 5

ข้อสัญญาที่ 9

กฎหมายที่ควบคุม  

ข้อสัญญานี้อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายของรัฐสมาชิกที่ที่ผู้ส่งออกข้อมูลตั้งอยู่

ข้อสัญญาที่ 10

การเปลี่ยนแปลงสัญญา

คู่สัญญายินยอมที่จะไม่เปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขข้อสัญญา ซึ่งจะไม่ขัดขวางการที่คู่สัญญาจะเพิ่มข้อสัญญาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเมื่อจำเป็น โดยทั้งนี้จะต้องไม่ขัดกับข้อสัญญาเดิม

ข้อสัญญาที่ 11

การประมวลผลย่อย

  1. ผู้นำเข้าข้อมูลจะไม่ทำสัญญารับช่วงการดำเนินการประมวลผลข้อมูลในนามของผู้ส่งออกข้อมูลภายใต้ข้อสัญญา หากไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าจากผู้ส่งออกข้อมูล หากผู้นำเข้าข้อมูลทำสัญญารับช่วงภาระผูกพันภายใต้ข้อสัญญาโดยได้รับความยินยอมจากผู้ส่งออกข้อมูล ผู้นำเข้าข้อมูลจะสามารถดำเนินการดังกล่าวได้หากมีข้อตกลงที่เป็นลายลักษณ์อักษรกับผู้ประมวลผลย่อยซึ่งจะต้องยอมรับภาระผูกพันของผู้ประมวลผลย่อยเหมือนกับภาระผูกพันของผู้นำเข้าข้อมูลในข้อสัญญา3หากผู้ประมวลผลย่อยไม่สามารถดำเนินการตามภาระผูกพันการปกป้องข้อมูลภายใต้ข้อตกลงที่เป็นลายลักษณ์อักษรดังกล่าว ความรับผิดชอบทั้งหมดสำหรับการดำเนินการตามภาระผูกพันภายใต้สัญญาดังกล่าวของผู้ประมวลผลย่อยที่มีต่อผู้ส่งออกข้อมูลยังคงเป็นของผู้นำเข้าข้อมูล
  2. สัญญาลายลักษณ์อักษรระหว่างผู้นำเข้าข้อมูลและผู้ประมวลผลย่อยที่กล่าวไว้ก่อนหน้าจะพูดถึงเรื่องข้อสัญญาเกี่ยวกับผลประโยชน์ของบุคคลที่ 3 ตามที่กล่าวไว้ในข้อสัญญาที่ 3 สำหรับกรณีที่เจ้าของข้อมูลไม่สามารถทวงสิทธิ์การชดใช้ค่าเสียหายจากผู้ส่งออกหรือผู้นำเข้าข้อมูลตามย่อหน้าที่ 1 และ 2 เนื่องจากทั้งคู่หายไปตามข้อเท็จจริงหรือยกเลิกการคงสภาพตามกฎหมาย หรือกลายสถานะเป็นผู้ล้มละลาย โดยไม่มีนิติบุคคลที่รับช่วงต่อมารับภาระผูกพันทางกฎหมายทั้งหมดต่อจากผู้ส่งออกหรือผู้นำเข้าข้อมูลตามสัญญาหรือตามการดำเนินการทางกฎหมาย ความรับผิดชอบต่อบุคคลที่สามของผู้ประมวลผลย่อยจะจำกัดเพียงการดำเนินการประมวลผลในส่วนของตนภายใต้ข้อสัญญาเท่านั้น
  3. ข้อบังคับเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลสำหรับการประมวลผลย่อยของสัญญาที่อ้างถึงในย่อหน้าที่ 1 อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายของรัฐสมาชิกที่ผู้ส่งออกข้อมูลตั้งอยู่
  4. ผู้ส่งออกข้อมูลจะต้องเก็บรักษารายการข้อตกลงของการประมวลผลย่อยโดยสรุปภายใต้ข้อสัญญาและแจ้งให้ผู้นำเข้าข้อมูลตามข้อสัญญาที่ 5 (ญ) และทำการปรับปรุงข้อมูลอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง รายการดังกล่าวต้องพร้อมมอบให้หน่วยงานที่กำกับดูแลการปกป้องข้อมูลของผู้ส่งออกข้อมูล

ข้อสัญญาที่ 12

ภาระผูกพันหลังการยุติบริการการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

  1. คู่สัญญายอมรับว่าเมื่อยุติการให้บริการการประมวลผลข้อมูล ผู้นำเข้าข้อมูลและผู้ประมวลผลย่อยจะส่งคืนข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่ถ่ายโอน รวมทั้งสำเนาข้อมูลให้ผู้ส่งออกข้อมูลตามวิธีที่ผู้ส่งออกข้อมูลเลือก หรือจะทำลายข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดและให้การยืนยันกับผู้ส่งออกข้อมูลว่าได้ดำเนินการดังกล่าว ยกเว้นในกรณีที่มีข้อบังคับทางกฎหมายสั่งห้ามไม่ให้ส่งคืนหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ถ่ายโอน หากเป็นเช่นนั้น ผู้นำเข้าข้อมูลต้องประกันว่าจะรับรองว่าจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่ถ่ายโอนเป็นความลับและจะไม่มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ถ่ายโอนอีก
  2. ผู้นำเข้าข้อมูลและผู้ประมวลผลย่อยรับรองว่าเมื่อได้รับคำขอจากผู้ส่งออกข้อมูลและ/หรือหน่วยงานที่กำกับดูแล จะส่งสถานที่ทำการประมวลผลข้อมูลให้ตรวจสอบมาตรการตามที่อ้างถึงในย่อหน้าที่ 1

ข้อบังคับเพิ่มเติม

คำหลักที่ขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ในส่วน ก. ถึง ค. และในภาคผนวกแต่ไม่มีคำจำกัดความอยู่ในข้อสัญญาจะมีความหมายตามข้อตกลง Dropbox Business ระหว่างผู้ส่งออกข้อมูลและ Dropbox International Unlimited Company

  1. การตรวจสอบการรักษาความปลอดภัยผู้นำเข้าข้อมูลจะต้องรักษาไว้ซึ่งใบรับรอง ISO/IEC 27001:2013 และ ISO/IEC 27018:2014 ที่ออกโดยหน่วยงานการตรวจสอบอิสระ ผู้นำเข้าข้อมูลจะต้องเข้ารับการตรวจสอบ ISO/IEC 27001:2013 และ ISO/IEC 27018 ที่จำเป็นอย่าสม่ำเสมอเพื่อรักษาไว้ซึ่งใบรับรองสำหรับบริการในช่วงระยะสัญญา นอกจากนี้ ผู้นำเข้าข้อมูลยังต้องเข้ารับการตรวจสอบ Service Organization Control 2 (SOC 2) Type II ตามปกติ ผู้นำเข้าข้อมูลจะต้องนำส่งสำเนาของรายงาน SOC 2 Type II ไม่เกินปีละหนึ่งครั้งให้ผู้ส่งออกข้อมูลเมื่อมีคำขอเป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งนี้ให้เป็นไปตามภาระผูกพันด้านการรักษาความลับของผู้นำเข้าข้อมูล ผู้นำเข้าข้อมูลจะต้องพร้อมนำส่งรายงาน SOC 2 ฉบับใหม่ทันทีที่เสร็จเรียบร้อย ทั้งนี้ให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านการรักษาความลับของผู้นำเข้าข้อมูล ผู้นำเข้าข้อมูลจะต้องตรวจสอบองค์กรที่สามที่ให้บริการย่อยอย่างสม่ำเสมอ โดยจะต้องผ่านการตรวจสอบ Standards for Attestation Engagements No. 16 (SSAE 16) / International Standard on Assurance Engagements No. 3402 (ISAE 3402) Service Organization Control 1 (SOC 1) Type II หรือ Service Organization Control 2 (SOC 2) Type II ที่ประเมินการออกแบบและประสิทธิภาพของนโนบาย ขั้นตอน และการควบคุมด้านการรักษาความปลอดภัย

    ผู้ส่งออกข้อมูลยอมรับว่าภาระผูกพันของผู้นำเข้าข้อมูลที่ระบุในส่วน ก. เหมาะสมกับสิทธิในการตรวจสอบภายใต้ข้อสัญญาที่ 5 (ฉ) และข้อสัญญาที่ 12 (2) ของข้อสัญญานี้

  2. การประมวลผลย่อยผู้นำเข้าข้อมูลอาจขอให้บริษัทอื่นเข้ามามีส่วนในด้านในด้านหนึ่งที่จำกัดของบริการ (รวมถึงบริการสนับสนุน) ในนามของผู้นำเข้าข้อมูล โดยผู้ส่งออกข้อมูลได้ยินยอมให้ผู้นำเข้าข้อมูลทำสัญญารับช่วงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลย่อยที่อธิบายไว้ในข้อสัญญา ผู้นำเข้าข้อมูลจะต้องรับประกันว่าผู้ประมวลผลย่อยจะเข้าถึงและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในการให้บริการเฉพาะตามที่ระบุในข้อตกลงที่เป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างผู้นำเข้าข้อมูลกับผู้ประมวลผลย่อยเท่านั้น ผู้ส่งออกข้อมูลรับทราบว่าข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับผู้นำเข้าข้อมูลภายใต้ข้อสัญญาเรื่องข้อตกลงกับผู้ประมวลผลย่อยจะต้องเป็นไปตามที่ระบุในข้อตกลงการประมวลผลย่อยระหว่างผู้นำเข้าข้อมูลและผู้ประมวลข้อมูลย่อยโดยอย่างน้อยจะต้องจัดเตรียมระดับการปกป้องข้อมูลตามที่กำหนดในข้อตกลง Dropbox Business
  3. ความรับผิดข้อสัญญาจะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดและข้อยกเว้นด้านความรับผิดที่อยู่ในส่วน "ข้อจำกัดด้านความรับผิด" ของข้อตกลง Dropbox Business โดยความรับผิดรวมของผู้นำเข้าข้อมูลและ Dropbox International Unlimited Company เมื่อรวมกันแล้วจะต้องไม่เกินจำนวนที่จำกัดไว้ในข้อตกลง Dropbox Business เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน ผู้ส่งออกข้อมูลจะไม่มีสิทธิ์รับการชดใช้จากทั้งผู้นำเข้าข้อมูลและ Dropbox International Unlimited Company ในกรณีความเสียหายเดียวกัน

ภาคผนวกที่ 1 ของข้อสัญญามาตรฐาน

ภาคผนวกนี้ประกอบเข้าเป็นส่วนหนึ่งของข้อสัญญา ซึ่งคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะต้องกรอกข้อมูลและลงนามให้เรียบร้อย

รัฐสมาชิกอาจกรอกหรือระบุข้อมูลตามขั้นตอนในประเทศนั้น โดยข้อมูลเพิ่มเติมที่จำเป็นจะต้องอยู่ในภาคผนวกนี้

ผู้ส่งออกข้อมูล

ผู้ส่งออกข้อมูลคือ (กรุณาระบุกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนโดยสรุป):

ลูกค้าที่ทำข้อตกลง Dropbox Business กับ Dropbox International Unlimited Company

ผู้นำเข้าข้อมูล

ผู้นำเข้าข้อมูลคือ (กรุณาระบุกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนโดยสรุป):

Dropbox, Inc. ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์สำหรับลูกค้ารายบุคคลและธุรกิจทั่วโลก Dropbox, Inc. และบริษัทในเครือให้บริการเว็บไซต์ ซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ซึ่งช่วยให้บุคคลสามารถจัดเก็บไฟล์ ซิงค์ไฟล์ บนอุปกรณ์ที่หลากหลายและทำงานร่วมกันกับผู้อื่น นอกจากนี้ บริการของ Dropbox, Inc. ยังสามารถเข้าถึงผ่าน Application Programming Interfaces (API)

เจ้าของข้อมูล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถ่ายโอนซึ่งเกี่ยวข้องกับประเภทของเจ้าของข้อมูลต่อไปนี้ (กรุณาระบุ):

ผู้ใช้ปลายทางของผู้ส่งออกข้อมูลและบริษัทในเครือของผู้ส่งออกข้อมูล ซึ่งรวมถึงพนักงาน ที่ปรึกษา ผู้ทำสัญญาจ้างของผู้ส่งออกข้อมูล รวมทั้งบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ทำงานร่วมกันหรือแบ่งปันข้อมูลกับผู้ใช้ปลายทางเหล่านี้โดยใช้บริการของผู้นำเข้าข้อมูล

ประเภทข้อมูล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการถ่ายโอนซึ่งเกี่ยวข้องกับประเภทข้อมูลต่อไปนี้ (กรุณาระบุ):

ผู้ใช้ปลายทางที่ระบุว่าข้อมูลและข้อมูลขององค์กร (ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์) รวมถึงเอกสาร รูปภาพ และเนื้อหาอื่นๆ หรือข้อมูลในรูปแบบอิเล็กทรอนิคส์ที่จัดเก็บหรือส่งสัญญาณโดยผู้ใช้ปลายทางผ่านบริการของผู้นำเข้าข้อมูล

การดำเนินการด้านการประมวลผล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถ่ายโอนจะเป็นไปตามกิจกรรมการประมวลผลพื้นฐานต่อไปนี้ (กรุณาระบุ):

ผู้นำเข้าข้อมูลหรือผู้ประมวลผลย่อยจะใช้และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งที่ผู้ส่งออกข้อมูลระบุให้ผู้นำเข้าข้อมูลใช้และประมวลผลข้อมูลเพื่อให้บริการภายใต้ข้อตกลง Dropbox Business


ภาคผนวกที่ 2 ของข้อสัญญามาตรฐาน

ภาคผนวกนี้ประกอบเข้าเป็นส่วนหนึ่งของข้อสัญญา ซึ่งคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะต้องกรอกข้อมูลและลงนามให้เรียบร้อย

คำอธิบายมาตรการรักษความปลอดภัยและเทคนิคขององค์กรที่ผู้นำเข้าข้อมูลนำไปใช้ตามข้อสัญญาที่ 4 (ง) และ 5 (ค) (หรือเอกสารหรือข้อบังคับทางกฎหมายที่แนบมาด้วย):

ข้อมูลติดต่อด้านการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

เจ้าหน้าที่ด้านการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของผู้นำเข้าข้อมูลสามารถติดต่อได้ที่ privacy@dropbox.com

มาตรการการรักษาความปลอดภัย

ผู้นำเข้าข้อมูลได้ใช้และจะคงไว้ซึ่งมาตรการทางการบริหารจัดการ เทคนิค และทางกายภาพที่เหมาะสมในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลดังที่ได้อธิบายเพิ่มเติมไว้ในรายงานการรักษาความปลอดภัยของ Dropbox Business (ซึ่งพร้อมให้บริการในวันที่มีผลบังคับที่: https://www.dropbox.com/…/Security_Whitepaper.pdf) และระบุเพิ่มเติมที่ด้านล่างนี้ ผู้นำเข้าข้อมูลอาจทำการปรับปรุงมาตรการการรักษาความปลอดภัยเหล่านี้เป็นครั้งคราว โดยเวอร์ชันล่าสุดจะพร้อมให้บริการที่ URL ข้างต้น (หรือ URL อื่นตามที่ผู้นำเข้าข้อมูลจะแจ้งให้ทราบ) โดยมีเงื่อนไขว่าผู้นำเข้าข้อมูลจะต้องแจ้งให้ผู้ส่งออกข้อมูลทราบหากผู้นำเข้าข้อมูลปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยซึ่งอาจลดคุณสมบัติทางด้านการบริหารจัดการ เทคนิค หรือทางกายภาพของการรักษาความปลอดภัยที่อธิบายไว้ ณ ที่นี้ หรือในภาคผนวกที่ 2

  1. การรักษาความปลอดภัยของบริการ
    1. สถาปัตกรรมของ Dropboxบริการของผู้นำเข้าข้อมูลได้รับการออกแบบมาพร้อมการปกป้องหลายชั้นซึ่งครอบคลุมการถ่ายโอนข้อมูลที่ปลอดภัย การเข้ารหัส การกำหนดค่าเครือข่าย และการควบคุมในระดับแอพพลิเคชัน ซึ่งกระจายอยู่ในโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยและปรับขนาดได้ ผู้ใช้ปลายทางของบริการของผู้นำเข้าข้อมูลสามารถเข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์ได้ตลอดเวลาจากเดสก์ท็อป เว็บ และไคลเอนท์บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ไคลเอนท์ดังกล่าวจะเชื่อมต่อบริการที่ปลอดภัย เพื่อให้การเข้าถึงไฟล์ อนุญาตการแบ่งปันไฟล์กับบุคคลอื่น และอัพเดตอุปกรณ์ที่เชื่อมโยงเมื่อมีการเพิ่ม เปลี่ยนแปลง หรือลบไฟล์ โดยสามารถใช้และเข้าถึงบริการนี้ผ่านอินเตอร์เฟซที่หลากหลาย แต่ละอินเทอร์เฟซมีการตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยและคุณสมบัติต่างๆ ซึ่งทำหน้าที่ประมวลผลและปกป้องข้อมูลผู้ใช้ พร้อมกับให้การเข้าถึงที่ง่ายดาย 
    2. ความเชื่อถือได้บริการของผู้นำเข้าข้อมูลพัฒนาขึ้นพร้อมการปกป้องซ้ำหลายชั้นจึงสามารถปกป้องไม่ให้ข้อมูลสูญหายและรับรองความพร้อมในการใช้งาน
    3. การเข้ารหัสสำหรับการปกป้องข้อมูลระหว่างการถ่ายโอนระหว่างผู้ส่งออกข้อมูลและผู้นำเข้าข้อมูล ผู้นำเข้าข้อมูลจึงใช้เลเยอร์ซ็อคเก็ตรักษาความปลอดภัย (Secure Sockets Layer - SSL)/ความมั่นคงของชั้นขนส่ง (Transport Layer Security - TLS) สำหรับการถ่ายโอนข้อมูล สร้างอุโมงค์ส่งผ่านข้อมูลที่ได้รับการปกป้องโดยการเข้ารหัส Advanced Encryption Standard (AES) 128 บิตขึ้นไป ข้อมูลไฟล์ที่เหลือจะถูกเข้ารหัสโดยใช้มาตรฐานการเข้ารหัสลับขั้นสูง (Advanced Encryption Standard - AES) 256 บิต โครงสร้างพื้นฐานในการจัดการคีย์การเข้ารหัสของผู้นำเข้าข้อมูลออกแบบมาพร้อมการควบคุมความปลอดภัยทั้งในระดับการทำงาน เทคนิค และกระบวนวิธี โดยจำกัดการเข้าถึงคีย์โดยตรงอย่างเข้มงวด การสร้าง การแลกเปลี่ยน และการจัดเก็บคีย์การเข้ารหัส จะถูกจัดสรรเพื่อการประมวลผลแบบกระจายส่วน
    4. คุณสมบัติการบริหารจัดการผู้ใช้ผู้ใช้ปลายทางของบริการของผู้นำเข้าข้อมูลสามารถเรียกคืนไฟล์ที่สูญหาย และกู้คืนไฟล์เวอร์ชันก่อนหน้าได้แบบไม่จำกัด จึงมั่นใจว่าสามารถติดตามและกู้คืนการเปลี่ยนแปลงในไฟล์ที่ได้ บริการของผู้นำเข้าข้อมูลช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ขั้นตอนการพิสูจน์ตัวตนสองขั้นซึ่งช่วยเพิ่มการปกป้องให้แน่นหนาขึ้นอีกชั้น
    5. ศูนย์ข้อมูลระบบองค์กรและการผลิตของผู้นำเข้าข้อมูลอยู่ที่ศูนย์ข้อมูลสำหรับองค์กรบริการย่อยภายนอก และจัดการโดยผู้ให้บริการในสหรัฐอเมริกา ผู้นำเข้าข้อมูลได้ตรวจสอบรายงานของศูนย์ข่อมูลขององค์กรที่ให้บริการย่อยเกี่ยวกับ Service Organization Control (SOC) 1 และ/หรือ SOC 2 อย่างน้อยปีละครั้งเพื่อให้การควบคุมด้านการรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างพอเพียง
  2. การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
    1. นโยบายผู้นำเข้าข้อมูลได้ตั้งชุดนโยบายการรักษาความปลอดภัยที่รอบคอบโดยครอบคลุมด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การรักษาความปลอดภัยทางกายภาพ การตอบสนองต่อเหตุการณ์ การเข้าถึงทางตรรกะ การเข้าถึงการผลิตทางกายภาพ การจัดการและสนับสนุนการเปลี่ยนแปลง นโยบายเหล่านี้ได้รับการตรวจสอบและอนุมัติอย่างน้อยปีละครั้ง บุคลากรของผู้นำเข้าข้อมูลจะได้รับแจ้งเกี่ยวกับการปรับปรุงนโยบายและจะได้รับการฝึกอบรมด้านการรักษาความปลอดภัย
    2. นโยบายและการเข้าถึงของบุคลากร นโยบายภายในของผู้นำเข้าข้อมูลกำหนดให้ขั้นตอนการอนุญาตให้พนักงานใช้งานรวมถึงการตรวจสอบภูมิหลัง (ตามที่กฎหมายท้องถิ่นอนุญาต) การรับทราบถึงนโยบายการรักษาความปลอดภัย และข้อตกลงว่าจะไม่เปิดเผยข้อมูล สิทธิ์ในการเข้าถึงของพนักงานจะถูกลบในเวลาที่เหมาะสมเมื่อพนักงานหรือบุคลากรตามสัญญาจ้างลาออกจากบริษัท ผู้นำเข้าข้อมูลใช้การควบคุมการเข้าถึงทางเทคนิคและนโยบายภายในเพื่อยับยั้งมิให้พนักงานหรือบุคลากรตามสัญญาจ้างเข้าถึงข้อมูลไฟล์ของผู้ใช้โดยพลการ และเพื่อห้ามการเข้าถึงเมตะดาต้าและข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับบัญชีของผู้ใช้ปลายทาง เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวและการรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้ปลายทาง จะมีพนักงานหรือบุคลากรตามสัญญาจ้างเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าถึงในบริเวณที่จัดเก็บไฟล์ของผู้ใช้ปลายทาง ผู้บริหารจะเก็บบันทึกคำขอเข้าถึง เหตุผลที่ให้ และการอนุมัติ โดยจะมอบสิทธิ์การเข้าถึงให้บุคลากรที่เหมาะสมเท่านั้น
    3. การรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายผู้นำเข้าข้อมูลรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายและติดตามตรวจสอบเทคนิคที่ออกแบบมาเพื่อมอบการปกป้องและคุ้มกันหลายชั้น ผู้นำเข้าข้อมูลใช้เทคนิคการปกป้องที่เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม ได้แก่ ไฟร์วอลล์ การตรวจตราการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย และระบุตรวจจับการรุกล้ำ เพื่อให้แน่ใจว่ามีแค่ทราฟฟิคที่ถูกต้องเท่านั้นที่เข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานของผู้นำเข้าข้อมูล
    4. การจัดการความเปลี่ยนแปลงผู้นำเข้าข้อมูลให้การรับรองว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยต้องได้รับการอนุมัติก่อนนำไปใช้ในสภาพแวดล้อมการผลิต การเปลี่ยนแปลงรหัสที่มาเริ่มต้นจากนักพัฒนาโปรแกรมที่ต้องการเสริมสร้างประสิทธิภาพของแอพพลิเคชันหรือบริการของผู้นำเข้าข้อมูล การเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างพื้นฐานของผู้นำเข้าข้อมูลจะจำกัดเฉพาะบุคลากรที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ความเปลี่ยนแปลงด้านระดับการนำไปใช้ของบริการต้องผ่านกระบวนการทดสอบเพื่อประกันคุณภาพ (Quality Assurance - QA) โดยอัตโนมัติเพื่อยืนยันว่าเป็นไปตามข้อกำหนดด้านการรักษาความปลอดภัย เมื่อผ่านกระบวนการทดสอบเพื่อประกันคุณภาพ (QA) เรียบร้อยแล้วจึงจะนำการเปลี่ยนแปลงนั้นไปใช้ได้
    5. การปฏิบัติตามข้อกำหนดผู้นำเข้าข้อมูลและผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลของตน รวมถึงผู้ให้บริการที่จัดการจะต้องผ่านการตรวจสอบด้านการรักษาความปลอดภัยโดยหน่วยงานอิสระภายนอกเป็นประจำ ผู้นำเข้าข้อมูลจะเข้าร่วมในการตรวจสอบ ISO/IEC 27001:2013 และ ISO/IEC 27018:2014 เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ผู้นำเข้าข้อมูลยังต้องตรวจสอบรายงาน SOC 1 และ/หรือ SOC 2 สำหรับองค์กรที่ให้บริการย่อยทั้งหมด ในกรณีที่รายงาน SOC 1 และ/หรือ SOC 2 ขององค์กรที่ให้บริการย่อยยังไม่พร้อมใช้งาน ผู้นำเข้าข้อมูลจะต้องดำเนินการตรวจสอบการรักษาความปลอดภัยด้วยการไปเยี่ยมชมสถานที่เพื่อยืนยันการควบคุมทางกายภาพ สิ่งแวดล้อม และการดำเนินการรักษาความปลอดภัยว่าเป็นไปตามเกณฑ์ข้อกำหนดที่ตั้งไว้ในสัญญา ผู้นำเข้าข้อมูลจะประเมินใบรับรองและหลักฐานการปฏิบัติตามข้อกำหนดเพิ่มเติมตามที่ผู้นำเข้าข้อมูลได้รับจากผู้ให้บริการย่อยอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ
  3. การรักษาความปลอดภัยทางกายภาพ 
    1. โครงสร้างพื้นฐานการเข้าถึงทางกายภาพในสถานที่ขององค์กรที่ให้บริการย่อยอันเป็นที่ตั้งของระบบการผลิตจะจำกัดเฉพาะบุคลากรที่ได้รับอนุญาตจากผู้นำเข้าข้อมูลให้ดำเนินการตามหน้าที่งานที่กำหนดเท่านั้น บุคคลใดก็ตามที่ต้องการสิทธิ์เพิ่มเติมเพื่อเข้าถึงสถานที่แวดล้อมทางการผลิตจะได้รับสิทธิ์การเข้าถึงผ่านการอนุมัติที่ชี้ชัดจากผู้บริหารที่เหมาะสม
    2. สำนักงานผู้นำเข้าข้อมูลเก็บรักษาทีมการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพที่รับผิดชอบด้านการบังคับใช้นโยบายการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพและกำกับดูแลการรักษาความปลอดภัยในสำนักงานใหญ่ของผู้นำเข้าข้อมูล การเข้าถึงบริเวณที่ให้บริการสำนักงานต้องจำกัดเฉพาะบุคลากรที่ได้รับอนุญาตผ่านบทบาทขั้นสูงที่ได้รับผ่านระบบการเข้าถึงแบบติดป้ายกำกับ

เชิงอรรถ

  1. คู่สัญญาอาจผลิตคำจำกัดความและความหมายที่มีอยู่ในข้อกำหนด 95/46/EC ภายในข้อสัญญานี้ซ้ำ หากพิจารณาแล้วว่าจะเป็นการดีกว่าหากแยกสัญญาต่างหาก ↩
  2. ข้อกำหนดที่บังคับของข้อบังคับทางกฎหมายในประเทศที่เกี่ยวข้องกับผู้นำเข้าข้อมูลซึ่งไม่อยู่นอกเหนือจากสิ่งที่จำเป็นในสังคมประชาธิปไตยบนพื้นฐานของรายการความสนใจที่ระบุในบทที่ 13(1) ของข้อกำหนด 95/46/EC ซึ่งก็คือ หากประกอบด้วยมาตรการที่จำเป็นต่อการปกป้องความมั่นคงของประเทศ การกลาโหม และการรักษาความปลอดภัยของสาธารณะ การป้องกัน การสอบสวน การตรวจพบและลงโทษผู้กระทำความผิดทางอาชญากรรมหรือการผิดจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพที่ตั้งวางกฎ ความสำคัญทางเศรษฐกิจ หรือความสนใจทางการเงินของรัฐ หรือการปกป้องเจ้าของข้อมูล หรือสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น จะไม่ถือเป็นการขัดแย้งกับข้อสัญญามาตรฐาน ตัวอย่างของข้อกำหนดที่บังคับซึ่งไม่อยู่นอกเหนือจากสิ่งที่จำเป็นในสังคมประชาธิปไตย ได้แก่ มาตรการบังคับที่นานาชาติเห็นด้วย ข้อกำหนดการรายงานภาษี หรือข้อกำหนดการรายงานการต่อต้านการฟอกเงิน และอื่นๆ ↩
  3. การตกลงตามข้อกำหนดนี้อาจทำได้โดยให้ผู้ประมวลผลย่อยร่วมลงนามในสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างผู้ส่งออกข้อมูลและผู้นำเข้าข้อมูลภายใต้การตัดสินใจนี้ ↩

คำแปลนี้จัดให้ไว้เพื่อความสะดวกเพียงเท่านั้น หากมีข้อขัดแย้งใดๆ ให้ยึดถือ เวอร์ชันภาษาอังกฤษ ไว้เป็นหลัก

นโยบาย DMCA ของ Dropbox

Dropbox (“Dropbox”) เคารพสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลอื่น และคาดหวังให้ผู้ใช้ของเราเคารพในสิทธิ์ดังกล่าวเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ โดยเป็นไปตามกฎหมาย Digital Millennium Copyright Act of 1998 เนื้อหาสาระเกี่ยวกับเรื่องนี้สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ของ U.S. Copyright Office ที่ http://www.copyright.gov/legislation/dmca.pdf Dropbox จะตอบกลับข้อกล่าวอ้างถึงการละเมิดลิขสิทธิ์ในการใช้งานบริการ Dropbox และ/หรือเว็บไซต์ Dropbox (“เว็บไซต์”) ได้อย่างฉับไว หากข้อกล่าวอ้างดังกล่าว รายงานไปยังตัวแทนลิขสิทธิ์ที่ได้รับมอบหมายของ Dropbox ตามที่ระบุไว้ในตัวอย่างข้อความแจ้งด้านล่างนี้

หากคุณเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการในนามของเจ้าของลิขสิทธิ์ หรือได้รับอนุญาตให้ดำเนินการภายใต้สิทธิ์จำเพาะของลิขสิทธิ์ โปรดรายงานข้อกล่าวหาในการละเมิดลิขสิทธิ์ซึ่งเกิดขึ้นบนหรือผ่านเว็บไซต์นั้น โดยกรอกแบบฟอร์ม "ข้อความแจ้ง DMCA เกี่ยวกับข้อกล่าวหาการละเมิดลิขสิทธิ์" และส่งไปที่ตัวแทนลิขสิทธิ์ที่ได้รับมอบหมายของ Dropbox เมื่อได้รับข้อความแจ้งดังกล่าวตามที่อธิบายไว้ด้านล่าง Dropbox จะดำเนินการภายใต้ดุลพินิจของเราแต่เพียงผู้เดียวตามที่เราเห็นสมควร ซึ่งรวมถึงการลบเนื้อหาที่มีปัญหาดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ของเรา

ข้อความแจ้ง DMCA เกี่ยวกับข้อกล่าวหาในการละเมิดลิขสิทธิ์ (“การแจ้ง”)

  1. ระบุถึงงานที่มีลิขสิทธิ์ที่คุณกล่าวอ้างว่ามีการละเมิด หรือในกรณีที่มีงานอันมีลิขสิทธิ์มากกว่าหนึ่งรายการในการแจ้งนี้ คุณสามารถส่งรายการที่แสดงถึงงานอันมีลิขสิทธิ์ที่คุณอ้างว่ามีการละเมิดก็ได้

  2. ระบุสาระสำคัญหรือลิงก์ที่คุณอ้างว่ามีการละเมิด (หรือเป็นเหตุแห่งกิจกรรมการละเมิดลิขสิทธิ์นั้น) และการเข้าถึงใดที่จะให้มีการปิดใช้งาน ซึ่งรวมถึง URL ของลิงก์ที่แสดงบนเว็บไซต์นี้เป็นอย่างน้อย (หากมี) หรือตำแหน่งที่ชัดเจนที่จะพบสาระสำคัญดังกล่าว

  3. ระบุข้อมูลติดต่อบริษัทของคุณ (หากเป็นไปได้) ที่อยู่ไปรษณีย์ หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมลแอดเดรส (หากมี)

  4. รวมข้อความทั้งสองประการต่อไปนี้ไว้ในการแจ้ง:
    • “ฉันขอแถลงในที่นี้ว่า ฉันเชื่อโดยสุจริตใจว่าการใช้งานที่มีข้อโต้แย้งในสาระสำคัญอันมีลิขสิทธิ์นี้ ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ตัวแทน หรือกฎหมาย (เช่น ตามข้อกำหนดการใช้อย่างเป็นธรรม)”

    • “ฉันขอแถลงในที่นี้ว่า ข้อมูลในข้อความแจ้งฉบับนี้ถูกต้องและขอระบุภายใต้บทลงโทษการให้การเท็จว่า ฉันเป็นเจ้าของ หรือได้รับอนุญาตให้ดำเนินการในนามของเจ้าของลิขสิทธิ์หรือมีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวภายใต้ลิขสิทธิ์ดังกล่าวที่ถูกกล่าวหาว่ามีการละเมิดสิทธิ์”

  5. แจ้งชื่อเต็มตามกฎหมาย รวมถึงแสดงลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์หรือลายเซ็นจริงของคุณ

ส่งการแจ้งนี้พร้อมรายละเอียดทั้งหมดที่ครบถ้วนไปยังตัวแทนลิขสิทธิ์ที่ได้รับมอบหมายของ Dropbox:

Copyright Agent
Dropbox Inc.
333 Brannan Street
San Francisco, CA 94107
copyright@dropbox.com

คำแปลนี้จัดให้ไว้เพื่อความสะดวกเพียงเท่านั้น หากมีข้อขัดแย้งใดๆ ให้ยึดถือ เวอร์ชันภาษาอังกฤษ ไว้เป็นหลัก

นโยบาย การใช้งานที่ยอมรับได้ของ Dropbox

มีผู้คนหลายล้านคนที่ใช้งาน Dropbox และเราภาคภูมิใจในความเชื่อถือที่ทุกคนมีให้แก่เรา ในทางกลับกัน เราก็เชื่อใจว่าคุณจะใช้บริการของเราอย่างมีความรับผิดชอบเช่นเดียวกัน

คุณตกลงที่จะไม่ใช้บริการของ Dropbox ("บริการ") ในทางที่ผิด ตลอดจนไม่ช่วยเหลือให้ผู้อื่นกระทำการดังกล่าว อาทิเช่น คุณจะต้องไม่พยายามกระทำการใดๆ ดังต่อไปนี้ในหนทางที่ข้อเกี่ยวกับบริการ:

  • ตรวจสอบ สแกน หรือทดสอบจุดอ่อนของระบบหรือเครือข่ายใดๆ
  • ฝ่าฝืนหรือหลีกเลี่ยงการรักษาความปลอดภัยหรือมาตรการตรวจสอบตัวตน
  • เข้าถึง ก้าวก่าย หรือใช้พื้นที่ที่ไม่ใช่สาธารณะหรือส่วนใดๆ ของบริการ หรือพื้นที่ที่แบ่งปันของบริการซึ่งคุณไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วม
  • รบกวนหรือขัดขวางผู้ใช้ โฮสต์ หรือเครือข่าย เช่น โดยการส่งไวรัส การโอเวอร์โหลด การโจมตีแบบ Flooding การส่งสแปม หรือการโจมตีโดยส่งอีเมลจำนวนมหาศาล (Mail-bombing) ไปยังส่วนใดๆ ของบริการ
  • เข้าถึง ค้นหา หรือสร้างบัญชีสำหรับบริการ โดยวิธีการอื่นใดที่นอกเหนือจากอินเทอร์เฟซที่สนับสนุนแบบสาธารณะ (เช่น “การดึงข้อมูล” (Scraping) หรือการสร้างบัญชีคราวละมากๆ)
  • ส่งการสื่อสาร รายการส่งเสริมการขาย หรือโฆษณาที่ไม่ได้ร้องขอ หรือสแปม
  • ส่งข้อมูลที่มีการบิดเบือน หลอกลวง หรือระบุแหล่งที่มาอันเป็นเท็จ ซึ่งรวมถึง "การปลอมตัว" (spoofing) หรือ "ฟิชชิง" (phishing)
  • ส่งเสริมหรือโฆษณาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเหมาะสม
  • ใช้โครงการแนะนำเพื่อนหรือรายการส่งเสริมการขายในทางที่ผิดเพื่อให้ได้รับพื้นที่จัดเก็บมากกว่าที่ควรจะเป็น
  • หลีกเลี่ยงข้อจำกัดของพื้นที่จัดเก็บ
  • จำหน่ายบริการ นอกจากจะได้รับอนุญาตเป็นการเฉพาะให้กระทำได้
  • เผยแพร่หรือแบ่งปันเนื้อหาอันลามกหรืออนาจารซึ่งผิดกฎหมาย หรือเนื้อหาที่แสดงถึงความรุนแรงเป็นอย่างมาก
  • ส่งเสริมความคลั่งหรือความเกลียดชังต่อบุคคลหรือกลุ่มคนใดๆ โดยยึดโยงกับเชื้อชาติ ศาสนา เผ่าพันธุ์ เพศ อัตลักษณ์ทางเพศ รสนิยมทางเพศ ทุพพลภาพ หรือความบกพร่องทางร่างกาย
  • ฝ่าฝืนกฎหมายด้วยวิธีการใดๆ ซึ่งรวมถึงการจัดเก็บ เผยแพร่ หรือแบ่งปันสาระสำคัญที่หลอกลวง หมิ่นประมาท ทำให้หลงผิด หรือ
  • ละเมิดความเป็นส่วนตัวหรือละเมิดสิทธิ์ของบุคคลอื่น